🇨🇳 สมรภูมิแห่งศรัทธา 9/10
War Of Faith
38 ตอนจบซับไทย+พากย์ไทย iQIYI Thailand
เรื่องย่อ
เรื่องราวของจีนในปี 1930 สงครามการเงินมีความผันแปร เว่ยรั่วไหลชายหนุ่มผู้มีปณิธานอยากให้การเงินของประเทศจีนเติบโต จึงอยากใช้ความสามารถของตนเองแก้ไขปัญหา ด้วยความสามารถนำพาให้เขาได้เจอกับเสิ่นถูหนาน ผู้อำนวยการธนาคารกลาง และเสิ่นจิ้นเจิน น้องสาวของเสิ่นถูหนาน ผู้มีอุดมการณ์ที่แตกต่างจากพี่ชาย จึงทำให้เขานั้นต้องพิจารณาว่าฝ่ายใดที่ทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง
รีวิว
ซีรี่ส์เรื่องนี้เป็นแนวดราม่า ย้อนยุคสาธารณรัฐ เรื่องราวเกี่ยวข้องกับการเมือง เศรษฐกิจ การเงินธนาคารในเซี่ยงไฮ้ของจีน โดยนโยบายทางการเงิน ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประเทศ นอกจากนี้ด้วยสถานการณ์ความวุ่นวายของคอมมิวนิสต์ในประเทศ ทำให้เงินก็เป็นส่วนสำคัญในการดำเนินแผนการความมั่นคงภายในประเทศเช่นกัน มันจึงเป็นเสมือนเกมส์แห่งอำนาจที่ใครต่างก็เข้ามาฉกฉวยผลประโยชน์ จนทำให้กลายเป็นการต่อสู้ของความศรัทธาว่าฝ่ายใดที่นึกถึงประชาชนอย่างแท้จริง
เว่ยรั่วไหล ชายหนุ่มผู้มีความสามารถด้านบัญชีและการคำนวณ เพราะวุฒิที่ยังออกไม่ได้ด้วยเรื่องการเมือง เขาไปสอบเป็นพนักงานของธนาคารกลางที่รับสมัครคนโดยที่ไม่ตรวจสอบวุฒิ ด้วยความสามารถที่แตกต่างจากคนอื่น ทำให้เขาได้รับความเมตตาและเป็นลูกศิษย์จากเสิ่นถูหนาน ผอ.ธนาคารกลาง เขาจึงใช้โอกาสที่จะเรียนรู้ความเป็นไปของโลกการทำงานด้านการเงิน ยึดถือความถูกต้อง และการรับใช้ชาติที่จะนำพาเศรษฐกิจของประเทศให้ยิ่งใหญ่ เขามีอุดมการณ์ที่เก่งและเชื่อมั่นในตัวอาจารย์ นอกจากนี้เขายังได้รู้จักกับเสิ่นจิ้นเจิน น้องสาวของเสิ่นถูหนาน หญิงสาวผู้เพียบพร้อมด้วยความรู้ เธอทำงานคลังแสงเกี่ยวกับอาวุธ และมีแนวคิดคอมมิวนิสต์ ซึ่งเป็นแนวคิดปรปักษ์กับรัฐบาลจีน ซึ่งรั่วไหลไปรู้ความลับของเธอนี้โดยไม่ตั้งใจ แม้เธอจะพยายามชวนเขาให้เข้าร่วมกับคอมมิวนิสต์ก็ตาม แต่รั่วไหลยังเชื่อมั่นในรัฐบาลอยู่จึงไม่ได้ปฏิเสธไป การทำงานของเขานั่นไม่ราบรื่นเพราะในธนาคารกลางก็ยังมีเหล่าทหารและนายทุนธนาคารที่เสียผลประโยชน์จากนโยบายของธนาคารกลาง พยายามที่จะทำลายความเชื่อมั่นและวางแผนเล่นงานเสิ่นถูหนาน และไม่สามารถเอาผิดคนพวกนี้ได้ จึงทำให้รั่วไหลอดคิดไม่ได้ว่าสิ่งที่เขาเชื่อมั่นอยู่นั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องการทำเพื่อประเทศชาติอยู่หรือไม่
เรื่องนี้ขอสารภาพก่อนว่า เป็นซีรี่ส์ที่ทำให้รู้สึกว่าเป็นเรื่องที่เขียนรีวิวยากมาก เพราะเนื้อหาประวัติศาสตร์ช่วงสาธารณรัฐจีนที่ไม่คุ้น แถมเป็นเนื้อหาที่ดำเนินเรื่องด้วยการเงิน เศรษฐกิจโดยส่วนใหญ่ มันยิ่งเพิ่มความยากมากเข้าไปอีก ต้องบอกเลยว่าขอเขียนในมุมที่หาข้อมูลเจอ และเรื่องราวในเรื่องที่ปรากฏนะ ถ้าหากมีข้อความส่วนใดที่ผิดพลาดต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย เรื่องนี้เริ่มต้นเรื่องราวในปี ค.ศ. 1930-1936โดยประมาณ เป็นช่วงเวลาที่จีนอยู่ในรัฐบาลก๊กมินตั๋ง ซึ่งนำโดยเจียง ไคเช็ก ประธานาธิบดีในยุคนั้น เหตุการณ์ในช่วง 6 ปีมันคือช่วงที่เศรษฐกิจจีนกำลังเติบโต มีการค้าขากต่างประเทศเข้ามาในจีน สลับกับเหตุการณ์การเข้ามาแทรกแซงอำนาจของญี่ปุ่นและช่วงเศรษฐกิจตกต่ำในช่วงปี 1931 นอกจากนี้ในปี 1932 เป็นช่วงการที่รัฐบาลพยายามจับกุมและปราบปรามคอมมิวนิสต์ที่ถือเป็นปรปักษ์อย่างหนัก ส่วนเนื้อเรื่องในซีรี่ส์เอง ไม่ได้เจาะจงเหตุการณ์นะว่ามันเกิดช่วงไหน แต่ในเรื่องก็จะเล่าลำดับเหตุการณ์ที่เจอในเรื่อง คือเศรษฐกิจและการดำเนินนโยบายของธนาคารโดยรัฐบาล การเข้ามาของญี่ปุ่น และการปราบปรามคอมมิวนิสต์ ซึ่งทั้งหมดดำเนินเรื่องความสำคัญด้วยการเงินเป็นจุดเด่น เพราะถือเป็นปัจจัยที่ชี้ให้เห็นถึงการดำเนินการของรัฐบาลว่ามีประสิทธิภาพแค่ไหน ในการรับมือปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้น
การดำเนินเรื่องเป็นการเล่าเรื่องจุดเริ่มต้นของรั่วไหล ชายหนุ่มที่เก่งเรื่องการเงิน เศรษฐกิจและการคาดการณ์พวกหุ้นการลงทุนต่างๆ เขามีโอกาสได้เข้ามาทำงานในธนาคารกลาง ซึ่งเป็นธนาคารที่บริหารโดยรัฐบาล ซึ่งมีเสิ่นถูหนาน เป็นผู้อำนวยการ อยู่ รั่วไหลมีใจที่จะใช้ความสามารถของตนเพื่อรับใช้ประเทศชาติ ซึ่งในเรื่องรั่วไหลและผอ.เสิ่นจะคุยเรื่องลัทธิไตรราษฎร์ มันเป็นนโยบายของเจียง ไคเช็คดำเนินการ ลัทธิไตรราษฎร์เป็นนโยบายที่คิดขึ้นโดยซุน ยัดเซ็น ลัทธิไตรราษฎร์ประกอบด้วยหลักการสามข้อ ได้แก่ "ประชาชาติ" คือ ความนิยมชาติ , "ประชาสิทธิ์" คือ ประชาธิปไตย , และ "ประชาชีพ" คือ ความอยู่สุขสวัสดีของผองชน ซึ่งมันเหมือนเป็นหลักการที่บุคคลที่จะเข้ามาทำงานกับรัฐบาลต้องยึดถือไว้เสมอ เหมือนอย่างที่คุณเสิ่นเน้นย้ำกับรั่วไหลในตอนแรกก่อนที่จะเข้าทำงานกับเขา การทำงานในธนาคารนั้นต้องบอกเลยว่ามันไม่ได้ราบรื่นและมีอุปสรรคคือพวกคนมีอำนาจทั้งหลายพยายามที่จะเข้ามากุมอำนาจเศรษฐกิจ แถมนโยบายด้านศุลกากรที่คุณเสิ่นเองพยายามผลักดันเพื่อการพัฒนาประเทศเองก็ถูกเหล่าพวกกลุ่มคนที่เสียผลประโยชน์คอยขัดแข้งขา กลุ่มพวกนี้ร่วมมือกับทหารเป็นกลุ่มที่มีอิทธิพล จึงทำให้การทำงานนั้นไม่สะดวก และเมื่อเกิดเรื่องก็ไม่สามารถที่จะใช้อำนาจในการจัดการได้ เพราะรัฐบาลเองก็ไม่ได้มาสนใจปัญหาที่เกิดขึ้น ส่วนตัวมองว่ามันเหมือนพวกที่มีอำนาจไม่สนใจความเดือดร้อนของประชาชน จ้องตักตวงผลประโยชน์อย่างเดียว มันจึงเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้รั่วไหลหมดศรัทธาในการที่จะอุทิศตนเพื่อทำงานให้ประเทศชาติ
คุณเสิ่นมีน้องสาวหนึ่งคน ซึ่งเป็นหญิงสาวที่มีการศึกษา เรียนเกี่ยวกับพวกวิศวะ ทำงานด้านคลังแสงพวกอาวุธ ชื่อจิ้นเจิน แท้จริงแล้วเธอคือขบวนการคอมมิวนิสต์ มีหน้าที่ปฏิบัติการ โดยที่พี่ชายเธอไม่เคยรู้ รั่วไหลรู้ตัวตนเพราะว่าพี่ชายของเขาเองก็เป็นคอมมิวนิสต์เช่นกัน ซึ่งรั่วไหลบ้านเกิดคือเจียงซี ซึ่งเป็นพื้นที่ของคอมมิวนิสต์ มันจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้โดนตรวจสอบอย่างหนัก เพราะคนวัยหนุ่มสาวของเจียงซีต่างก็เข้าร่วมกันส่วนใหญ่ ตัวของจิ้นเจินเอง ก็รู้ถึงปัญหาที่ธนาคารเช่นกัน จึงมักจะโน้มน้าวให้รั่วไหลเข้าร่วมด้วย ในตอนแรกรั่วไหลปฏิเสธนะเพราะเขาถือว่าตัวเองทำงานกับรัฐบาล แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นซึ่งรัฐบาลไม่สนใจ แล้วประชาชนเองก็ลำบาก บวกกับสถานการณ์การปราบปรามคอมมิวนิสต์ ทำให้รั่วไหลซึ่งถูกเพ็งเล็งเพราะมีพี่ชายเป็นคอมมิวนิสต์ และการถูกใส่ร้ายเพื่อให้กระทบกับคุณเสิ่น จึงทำให้เขาถูกพวกปราบปรามคอมมิวนิสต์จับไปทรมาณ เพื่อเป็นเครื่องมือทำลายอำนาจคุณเสิ่น ทำให้เขาต้องยอมเลือกอีกหนทางร่วมมือกับจิ้นเจินเพื่อเปิดโปงรัฐบาลและเหล่าคนเบื้องหลัง แม้สุดท้ายมันจะทำให้เขาต้องสูญเสียหน้าที่การงานไปก็ตาม แต่เพื่อทำให้ความรู้สึกผิดเขาลดลงก็ยังดี
เนื้อเรื่องมีความเข้มข้น เป็นการค่อยๆเล่าลำดับเหตุการณ์ เรื่องที่เกิดขึ้นจากสิ่งที่รั่วไหลประสบเหตุการณ์ต่างๆ มันไม่ได้น่าเบื่อนะ แต่ว่าเนื้อเรื่องใช้เวลาปูเรื่องให้เข้าใจไปเกือบครึ่งเรื่อง จนทำให้คาดการณ์ไม่ถูกว่าเนื้อเรื่องจะไปทางใดต่อ เป็นจุดวัดใจมากๆว่าเราจะดูเรื่องนี้ต่อได้ไหม ต้องบอกเลยว่าเนื้อหาเป็นในมุมมองก่อนจีนเข้าสู่ช่วงคอมมิวนิสต์ ซึ่งคอมมิวนิสต์ยังเป็นเพียงขบวนการหนึ่งที่พยายามต่อสู้กับความล้มเหลวของรัฐบาลในเรื่องนโยบายการเมืองเพราะรัฐบาลเองก็จัดการได้บกพร่อง ปล่อยให้คนของตัวเองคอร์รั่ปชั่นจนทำลายความเชื่อมั่นจากประชาชน การดำเนินเรื่องดำเนินแบบสไตล์การเล่าเรื่องไปตามลำดับ แต่มีความเข้มข้น ไม่น่าเบื่อ แต่เนื้อหามีความหนักและเข้าใจยากในเรื่องการเงินและการเมืองที่มาควบคุ่กัน รวมไปถึงเรื่องผลประโยชน์ของตัวร้ายที่มีบทบาทสร้างความตึงเครียดให้กับเรื่อง อาจทำให้เกิดความรู้สึกแค้นเคืองและเห็นใจตัวเอกที่มีใจทำเพื่อประเทศชาตินะ
ในเรื่องเองก็เสนอมุมมองของคอมมิวนิสต์ไปในเชิงให้ความหวังในการใช้ชีวิต และมองว่าคอมมิวนิสต์นั้นสามารถจัดการและทำเพื่อประชาชนได้มากกว่า ซึ่งเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จีนควรจะเปิดรับแนวคิดนี้เข้ามาเพื่อปกป้องประเทศ แล้วการที่รัฐบาลพยายามล้อมปราบคอมมิวนิสต์ แถมยังจับคนน่าสงสัยหรือคนที่เขาเกลียดชังมาใส่ร้ายได้อย่างไม่สนความถูกต้อง ดังนั้นมันก็เหมือนเป็นการสอดแทรกความคิดมุมที่น่าสงสารให้กับคอมมิวนิสต์เช่นกัน และมองว่าก๊กมินตั๋งคือตัวปัญหา ตัวถ่วงความเจริญ ส่วนตัวเองก็พยายามดูอย่างเป็นกลางที่สุดนะ พยายามไม่ตัดสินเข้าข้างไปในทางไหน เพราะก็พยายามมองในมุมที่ให้ได้วิเคราะห์ ดังนั้นตัวละครในเรื่อง ต่างฝ่ายต่างก็มีเหตุผลทางความคิดของตัวเองกัน แต่บทสรุปของเรื่องคือยังไงสุดท้ายจีนก็เลือกฝั่งคอมมิวนิสต์อยู่ดี ตามความจริงในประวัติศาสตร์ ในช่วงท้ายเรื่องการเงินเป็นเครื่องมือให้กับสงครามปราบปราม ดังนั้นมันก็เป็นความสะเทือนใจที่ไม่ว่ายังไง คนก็เลือกที่จะใช้อาวุธเป็นการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง ความคิดต่าง และคนที่สูญเสียมากที่สุดก็คือประชาชน
เรื่องนี้บทการเงินหนักเข้าใจยาก แต่ก็สามารถดูเข้าใจได้เรื่อยๆ ถ้าดูจนจบ จับประเด็นที่สำคัญก็พอ การดำเนินเรื่องนุก ไม่น่าเบื่อ เพราะมันเข้มข้นมากๆ บทตัวเอกมีความฉลาดในมุมมองของตนเอง ตัวร้ายก็ร้ายจนรู้สึกเกลียดและมีความเห็นใจอยู่ลึกๆ ในเรื่องตัวละครจะเป็นแนวเทาๆมากกว่า เพราะต่างฝ่ายต่างก็มีความเชื่อที่ถือยึดมั่นของตน ตามชื่อเรื่องเลยคือการสู้กันของความคิดในตัวละคร ซึ่งต้องดูอย่างตั้งใจและทำใจให้เป็นกลาง องค์ประกอบอื่นๆของเรื่อง ภาพมีความเก่าๆ แต่ก็สวย มุมกล้องดี ฉากอลังการ การแต่งกายก็ดี สวย มีความเป็นยุคนั้น กลิ่นอายบรรยากาศก็ใกล้เคียง ซาวด์เสียงในเรื่องมีทั้งเสียงดนตรี เสียงเปียโน และเพลงที่ร้องปลุกใจ
นักแสดงนำของเรื่อง คุณหวังหยาง รับบทเสิ่นถูหนาน ผอ.ธนาคารกลาง ผู้อุทิศการทำงานให้กับรัฐบาลอย่างมุ่งมั่น แต่ก็ต้องเจอกับความขัดแย้งของคนเสียผลประโยชน์ เขาแสดงเป็นคนที่น่าเชื่อถือมาก มีเสน่ห์และเป็นคนเก่ง ในเรื่องบทน่าเกรงขาม และมีอำนาจ เป็นที่พึ่งพาได้ แถมยังเป็นคนที่มีโลกกว้างหากเขาไม่ปิดรับ หวังอี้ป๋อ รับบทโดยเว่ยรั่วไหล เป็นตัวละครหลักในการดำเนินเรื่อง ซึ่งเขาแสดงได้ดีมาก รับรู้ได้ถึงความเป็นคนเก่ง มีอนาคต มีแววเป็นผู้นำ และมีความมุ่งมั่นทำเพื่อประเทศชาติ การที่เขาพบเจอกับปัญหาทำให้เขามุมมองเปลี่ยนไป แต่ก็ยังไม่ลืมความตั้งใจแรกของตัวเอง เป็นตัวละครที่มีพัฒนาการและยังให้ความประทับใจตลอดที่ดู และคนสุดท้าย หลี่ซิน รับบทเสิ่นจิ้นเจิน หญิงสาวผู้ดีแต่มีใจทำเพื่อประเทศชาติ เป็นหญิงสาวที่มีความรู้ แต่เลือกที่จะใช้ความสามารถของตนเองเพื่ออุดมการณ์ที่เชื่อมั่น แม้ว่าเธอต้องถูกกดดันให้ล้มเลิกความคิด แต่เธอก็เชื่อมั่นไม่เปลี่ยนแปลง เป็นตัวละครหญิงสาวที่กล้าหาญอีกคนหนึ่งเช่นกัน
เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์แนวสาธารณรัฐ นำเสนอเรื่องราวในมุมการเงินที่มีอำนาจในการดำเนินนโยบายของประเทศจีนในขณะนั้น รวมไปถึงสภาพสังคมและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากความบกพร่องของรัฐบาล ตัวเอกที่ต้องเลือกหนทางที่ถูกต้องที่จะทำเพื่อประชาชนอย่างแท้จริง เนื้อเรื่องเข้มข้น เหมาะกับคนที่ชอบดูแนวสาธารณรัฐ และมีความสนใจในเรื่องการเมืองและเศรษฐกิจจีน การดำเนินเรื่องใช้เวลาเยอะกว่าจะเข้าสู่เมนหลักแต่ว่าก็ยังเป็นอีกเรื่อง ที่ยิ่งดูยิ่งสนุก และควรเป็นอีกทางเลือกรับชม
#สมรภูมิแห่งศรัทธา
#WarOfFaith