วันพฤหัสบดีที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ซีรี่ส์เกาหลี : เพลงรัก วัยละมุน


 

🇰🇷 เพลงรักวัยละมุน 8/10

Spring Of Youth

10 ตอนจบซับไทย Netflix 


เรื่องย่อ 

ข่าวฉาวที่เกิดขึ้นทำให้ซากเย นักร้องนำวงไอดอลดังต้องออกจากวง ได้เจอกับคิมบม หญิงสาวนักแต่งเพลง ทั้งคู่จึงได้ก่อตั้งทีมวงดนตรีเพื่อความฝันที่มีเหมือนกันโดยไม่รู้ว่ามีอันตรายจากเรื่องในอดีตที่พยายามแยกพวกเขาให้ห่างกัน 


รีวิว 

เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์แนวโรแมนติกดราม่า วัยรุ่น ความฝัน สืบสวน เรื่องราวของอดีตไอดอลชื่อดังกับหญิงสาวนักแต่งเพลงที่เจอกันโดยมีเรื่องราวในอดีตเชื่อมโยงกัน เพื่อความฝันและความรัก โดยรับมือกับอุปสรรคที่พยายามขัดขวางความฝัน 


พระเอกเป็นนักร้องนำวงไอดอลที่สร้างเรื่องตอนเมาในงานเลี้ยงฉลองคอนวง ทำให้ประธานค่ายโกรธจึงไล่เขาออกจากบริษัทพร้อมเงินกระเป๋า พระเอกจึงกลับมาเรียนต่อในมหาลัยที่ตนเองดร็อปไว้ไม่เคยไปเรียน และหาที่พักแชร์ห้องโดยที่ไม่รู้ว่านั่นคือที่พักเดียวกับนางเอก นักแต่งเพลงในวงดนตรี ซึ่งนางเอกได้ขอให้พระเอกมาเป็นศิลปินคนแรกของตน ซึ่งพระเอกตกลงและทั้งคู่ก็ร่วมกันตั้งวงดนตรีขึ้นมา แต่การที่พระเอกและนางเอกใกล้ชิดกันกลับทำให้ประธานค่ายตกใจ พยายามแยกทั้งสองคนออกจากกันเพราะกลัวว่าความลับของตนที่ปกปิดไว้จะถูกทั้งสองรู้ความจริงขึ้นมา ซึ่งพระเอกสงสัยจึงสืบจนรู้ความจริง แต่เขาก็ไม่กล้าบอกนางเอก แต่พยายามอยู่เคียงข้างทำความฝันร่วมกัน เพื่อไม่ให้นางเอกต้องพบความเสียใจแบบในอดีตอีก 


การดำเนินเรื่อง เรื่องนี้เป็นสไตล์เรื่องราวแนวไอดอลแพทเทิ้ล ชีวิตในมหาวิทยาลัย การเรียน ความฝัน วัยรุ่น เรื่องราวอุปสรรคของอดีตไอดอลหนุ่มที่ได้เจอกับสาวนักแต่งเพลงในรั้วมหาลัยเพื่อความฝันที่ทั้งคู่มีเหมือนกัน แต่ความฝันนั้นกลับไม่ง่ายนักเมื่อทั้งคู่มีเบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกันโดยไม่รู้ตัว เป็นเรื่องอันตรายที่ทั้งคู่ไม่สามารถรับมือได้ แต่กระนั้นสายใยความผูกพันก็ก่อเกิดความรักให้ทั้งคู่ได้พร้อมเผชิญกับทุกอุปสรรค เนื้อหาค่อนข้างดูง่าย มีปมดราม่าที่น่าสนใจและจุดเรื่องราวที่เสริมเข้ามาให้น่าติดตาม ชื่อเรื่องแปลไทยไม่ค่อยเข้ากับเรื่องเท่าไรนะ ความเห็นส่วนตัว ถ้าอยากรู้ความหมายตอนจบเรื่องมีบอกไว้ 


ช่วงต้นเรื่อง บทเหมือนเป็นแนวไอดอลวัยรุ่น แต่จริงๆแฝงด้วยเรื่องราวดราม่าหนักไว้ ซึ่งตัวละครหลักยังเป็นเพียงนักศึกษาที่ยังรับมือกับปัญหาของผู้ใหญ่ไม่ได้ แต่เรื่องราวที่เป็นไปไม่ได้กลับพาให้หนุ่มอดีตไอดอลดังกับนักแต่งเพลงสาวที่มีเรื่องราวเชื่อมโยงกันได้พบกัน เนื้อหาก็ถือว่าน่าติดตามกับปมที่ถูกปกปิดไว้ กลางเรื่อง เนื้อหาเข้าช่วงกลางมีเรื่องดราม่าเกิดขึ้นในความรักสามเส้า และเรื่องราวความสัมพันธ์ของกลุ่มหนุ่มสาววงดนตรีที่ต้องแตกแยกกันด้วยความเข้าใจผิดของผู้ใหญ่ที่ปกปิดความจริง บทค่อนข้างอ่อนนะ บางฉากก็ไม่มีเหตุผลเท่าไร สนุกกลางๆ แต่ส่วนตัวก็ยังเลือกดูต่อเพราะอยากดูจุดจบของคนทำผิด อยากให้ทุกคนได้คลายปมความทุกข์ที่ไม่เคยได้รู้ 


บุคลิกตัวละคร พระเอก ไอดอลหนุ่มผู้ถูกไล่ออกจากวงจึงกลับมาเรียนเป็นเด็กมหาลัยเพื่อเริ่มชีวิตใหม่ นิสัยดี มีความสดใส มีความสามารถด้านดนตรี ทั้งการร้องเพลงและกีต้าร์ไฟฟ้าที่โดดเด่น แต่เป็นคนใจร้อน หุนหันพันแล่น ซื่อๆ ไม่ทันเล่ห์เหลี่ยมผู้ใหญ่ ยังมีความโลกสวยไม่ทันระมัดระวัง มีความใจป้ำยอมช่วยเหลือเพื่อนทุกคน รวมถึงเรื่องเงินด้วย เก็บความทุกข์แบกไว้เพียงลำพัง ส่วนนางเอก หญิงสาวผู้สูญเสียแม่ไปโดยไม่ทันตั้งตัว เคยอยู่ในความทุกข์จนไม่อยากมีชีวิต มีความสามารถทางดนตรี โดยเฉพาะด้านการแต่งเพลง มีความฝันที่อยากประสบความสำเร็จ ตั้งใจทำงานตลอดเพราะอยากอยู่ใกล้เปียโนที่เคยเป็นของตัวเอง มีความเห็นอกเห็นใจ เข้าใจคนอื่น แต่ก็ซื่อตรงกับความรู้สึกของตนเองชัดเจน ยังคงมีความหวังที่จะได้รู้ความจริงการเสียชีวิตของแม่ ชื่นชมความสามารถพระเอกจนสัญญากับเขาว่าจะปั้นให้เป็นศิลปินดังอีกครั้ง ความสัมพันธ์พระนางมีจุดเชื่อมโยงมาจากการเสียชีวิตของแม่นางเอก ซึ่งเกี่ยวข้องกับหน้าที่การงานที่สูญเสียไปของพระเอกด้วยเช่นกัน 


บทสรุปของเรื่อง เฉลยปมเรื่องออกแนวจบง่ายไปหน่อย ยังมีจุดที่ไม่มีหลักฐานชัดเจนสำหรับการจัดการตัวร้าย ทั้งที่เล่นปมมาหนักแต่ให้เคลียร์เรื่องแบบซอฟต์ๆแทน มีดราม่าช่วงท้ายนิดนึงแต่ทุกเรื่องราวใช้เวลาในการขัดเกลาความเจ็บปวดเพื่อเริ่มต้นใหม่ องค์ประกอบอื่นของเรื่อง บทดี แต่มีความแพทเทิลสไตล์ละครแนวไอดอล มีปมดราม่าที่น่าเล่นแต่ก็ไปไม่สุด การตัดต่อกลางๆ ถ้าเนื้อหาหลักทำได้ดี แต่เรื่องหารองค่อนข้างไม่จำเป็นที่ต้องมีก็ได้ ใส่มาให้รู้สึกบทน้ำเยอะ การลำดับภาพดี มุมกล้องดี ฉากดี มีความเหมาะสมกับเรื่อง สีภาพสวย สบายตา ซาวด์ประกอบดี คอสตูมดี เมคอัพดี 


นักแสดงนำของเรื่อง พระเอกฮายูจุน เป็นพระเอกที่มาจากสายไอดอล สำหรับในส่วนการแสดง ด้วยประสบการณ์มีผลงานมาเพียง 2 เรื่องก็ถือว่าแสดงได้ดี ถ้าหากได้รับโอกาสมากขึ้นก็จะได้ฝึกประสบการณ์ในบทที่ดีกว่านี้ได้ ส่วนนางเอกพัคจีฮู นางเอกสายการแสดง ที่มีผลงานมากมายมาย เรื่องนี้เป็นบทนำนางเอกครั้งแรก เป็นคนมีประสบการณ์ด้านการแสดงมาตั้งแต่เด็กและยาวนาน บทนี้ก็แสดงได้ดี บทดราม่าแสดงออกทางอารมณ์ได้ดีมาก หวังว่าในอนาคตจะมีเส้นทางการแสดงที่ยาวไกล ส่วนเคมีพระนาง เคมีดี มีความน่ารัก สดใส สไตล์วัยรุ่นไอดอลรุ่นใหม่ เข้าขากันดี ซีนหวานมีบ้าง แบบพอดีๆ  


เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์แนวโรแมนติก ดราม่า ความฝัน วัยรุ่น สืบสวน เรื่องราวของไอดอลหนุ่มตกอับกับสาวนักแต่งเพลงที่โชคชะตาทำให้เขาได้พบกันจากเหตุการณ์อุบัติเหตุที่เชื่อมโยงกัน บทดีกลางๆ แนวแพทเทิลไอดอล ปมเรื่องน่าติดตามแต่บทสรุปจบง่ายไป เคมีพระนางดี เป็นเรื่องที่เหมาะดูเพลินๆ ฆ่าเวลาได้แต่อย่าคาดหวังเยอะ  


#เพลงรักวัยละมุน

#SpringOfYouth

#NetflixTH

วันอังคารที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ซีรี่ส์เกาหลี : เขียนชีวิตใหม่ในเมืองโซล


 

🇰🇷 เขียนชีวิตใหม่ในเมืองโซล 8.5/10

Our Unwriteten Seoul

12 ตอนจบซับไทย Netflix 


เรื่องย่อ 

เรื่องราวของคู่ฝาแฝดหญิงแฝดน้องซูมีจีและแฝดพี่ซูมีแร ที่มีชีวิตที่แตกต่างกันทางความคิดและการกระทำ จนทำให้ทั้งสองยินดีแลกเปลี่ยนชีวิตของกันและกันเพื่อไตร่ตรองเรื่องที่เกิดขึ้น 


รีวิว 

เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์แนวโรแมนติกดราม่า ชีวิต ครอบครัว ความรัก การทำงาน เรื่องราวของคู่แฝดหญิงที่เติบโตมาด้วยกัน มีชีวิตที่เลือกแตกต่างกัน จนวันหนึ่งที่ทั้งคู่พบปัญหาที่แก้ไม่ได้ในชีวิตของตน จึงทำให้ทั้งสองคนตัดสินใจแลกเปลี่ยนชีวิตเพื่อหลีกหนีปัญหาที่กำลังเผชิญ  


ซูมีจีและซูมีแร สองสาวแฝดที่เกิดพร้อมกัน ทั้งคู่ได้รับความรักจากครอบครัวอย่างอบอุ่น มีเพียงแม่ของทั้งคู่ที่ไม่สามารถแยกแยะลูกสาวของตนเองได้ แต่มีแรแฝดพี่ในวัยเด็กป่วยบ่อยจึงทำให้แม่ค่อนข้างให้ความสำคัญกว่ามีจีแฝดน้อง มีจีจึงค่อนข้างอิจฉาพี่สาว เมื่อโตขึ้นมีแร เข้าไปทำงานบริษัทการเงินชื่อดังที่โซล ส่วนมีจีทำงานจิปาถะไม่มีความมั่นคง วันหนึ่งมีจีเข้าโซลเอาของไปให้พี่สาวทำให้เธอได้เห็นความทุกข์ใจของพี่ที่ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่ ทั้งคู่จึงตัดสินใจสลับตัวตน มีแรกลายเป็นมีจีกลับบ้านหนีปัญหา ส่วนมีจีกลายเป็นมีแรไปทำงาน เธอจึงได้รู้เรื่องราวและความทุกข์ที่พี่สาวเผชิญ ประจวบกับได้พบกับรักแรกในวัยเรียนซึ่งเป็นทนายที่ทำคดีเรื่องของพี่สาว ส่วนมีแร กลับบ้านไปทำงานที่มีแรทำค้างไว้จนได้เจอกับชายหนุ่มเจ้าของไร่สตอเบอร์รี่ที่หนีการทำงานวุ่นวายในโซลกลับมาบ้านเกิด ทำให้สองพี่น้องได้พบกับชีวิตใหม่และเรียนรู้ที่จะเข้าใจซึ่งกันและกัน 


การดำเนินเรื่อง เรื่องนี้บทมีความเรียล เข้ากับยุคสมัยของคนรุ่นใหม่ที่ต้องพบ ด้วยสังคมในสองรูปแบบของตัวเอกที่เผชิญ แฝดผู้พี่ที่ใช้ชีวิตในเมืองที่ทุกคนมองว่ามีชีวิตที่ดีและน่าจะมีความสุข กับแฝดน้องผู้ใช้ชีวิตในชนบทที่ทุกคนรอบตัวมองว่าชีวิตไม่มีอนาคต ใช้ชีวิตไปวันๆด้วยความเวทนาจมกับความทุกข์ในอดีต ซึ่งตัวละครสองแฝดนั้นกลับนำเสนอด้วยมุมมองที่อธิบายชัดเจนว่าไม่ว่าจะชีวิตแบบใด ทุกคนก็ต่างมีความทุกข์ของตน และต้องเผชิญกับมันเพียงลำพัง และต่างคิดว่าอีกฝ่ายมีชีวิตที่ดีกว่า จนเมื่อแฝดทั้งสองได้แลกเปลี่ยนตัวตนการใช้ชีวิตมันเสมือนให้ทุกคนได้เข้าใจในชีวิตที่ไม่มีใครแตกต่างกัน ส่วนตัวมันเป็นเรื่องราวที่ค่อนข้างสะท้อนมุมมองการเข้าใจคนอื่น ชื่อเรื่องมาจาก สองแฝดที่มาใช้ชีวิตในกรุงโซลด้วยเรื่องราวของตนเองแม้จะเป็นตัวตนเดียวกัน แต่ก็ยังมีเรื่องราว ประสบการณ์ สภาพแวดล้อมในแบบที่แตกต่างกัน มีเรื่องราวของแบบของตนเอง 


ช่วงต้นเรื่อง เรื่องราวปูความสัมพันธ์ของสองพี่น้องฝาแฝดหน้าตาที่เหมือนกันแต่ความคิดและวิถีชีวิตที่แตกต่างกัน ซึ่งชีวิตของทั้งคู่ก็ต่างเจอกับปัญหาในคนละแบบ เพื่อหลีกหนีจากความทุกข์นั้น ทั้งคู่ก็ได้ใช้ชีวิตเพื่อเข้าใจความรู้สึกของอีกฝ่าย บทค่อนข้างน่าสนใจดี ได้เห็นมุมเรื่องราวที่ต่างฝ้ายต่างละเลยกัน เรื่องราวออกไปทางแนวครอบครัวด้วย มีดราม่าที่น่าสะเทือนใจและเรื่องที่เพิ่งเฉลยออกมาทิ้งท้ายไว้ กลางเรื่อง เรื่องราวดำเนินไปพร้อมกับเนื้อหาในส่วนอดีตที่ค่อยๆเปิดเผยออกมา ให้ทุกความสัมพันธ์อันไม่ถูกต้องได้รับการแก้ไข จริงๆเนื้อหาค่อนข้างเน้นไปที่ความเป็นครอบครัวด้วยนะ เฉลยส่วนที่นึกไม่ถึง จึงทำให้เรื่องราวดำเนินมาค่อนข้างสนุกอยู่ แม้จะมีดราม่าแต่ก็เข้าใจความเป็นมาของเรื่อง มันเป็นจุดที่ทุกตัวละครกลับไปยังตัวตนที่เป็นของตัวเองจริงๆเพื่อเผชิญปัญหา 


คาแร็กเตอร์ตัวละคร ซูมีจี แฝดน้องที่มีชีวิตที่คิดว่าทุกสิ่งที่ดีๆถูกพี่สาวแย่งทุกอย่างเอาไปหมด แม้กระทั่งความฝันที่เคยมี นิสัยค่อนข้างแข็งๆ ใช้ชีวิตจมกับความทุกข์ เฉื่อยชา ไม่มีจุดมุ่งหมายที่ชัดเจน นิสัยเป็นเด็กสาวชนบทที่ค่อนข้างใสซื่อ ไม่ทันคน แต่จิตใจดี มีความเห็นใจต่อคนอื่น โดยเฉพาะกับเหล่าผู้สูงอายุ ส่วนซูมีแร เด็กสาวในวัยเด็กที่ร่างกายอ่อนแอ อิจฉาที่น้องสาวมีชีวิตที่อิสระ จึงตั้งใจเรียนเพื่อให้ชีวิตได้มีสิ่งที่ตนเองทำได้ดีบ้าง แม้จะทำได้ไม่เก่งอย่างที่หวังแต่ก็ยังโชคดีที่ได้ทำงานในบริษัทใหญ่ได้ ชีวิตมีความทุกข์ในเรื่องสังคมการทำงานที่ชิงดีชิงเด่น ทำให้เธอรู้สึกแปลกแยกจากเพื่อนร่วมงานจนเกิดเรื่องที่ไม่สามารถสู้ได้ เป็นทุกข์ที่ปรึกษาใครไม่ได้ และปกปิดไม่ให้ที่บ้านรู้เรื่องเพราะไม่อยากให้ใครต้องเป็นห่วง ทั้งสองพี่น้องต่างมีความอคติต่อกันเพราะความเข้าใจผิดในเรื่องอดีต จึงห่างเหินกัน แต่ใดๆสายสัมพันธ์พี่น้องก็ยังทำให้ทั้งคู่ช่วยเหลือกันที่ยามที่อีกฝ่ายมีปัญหา 


บทสรุปของเรื่อง เป็นบทสรุปเรื่องราวของชีวิตในแบบที่ตัวละครต้องการด้วยตนเองอย่างแท้จริง แม้ในสายตาคนอื่นมันจะไม่ถูกเส้นทางก็ตาม แต่ทุกคนก็พร้อมจะเริ่มต้นใหม่ด้วยความสุข องค์ประกอบอื่นของเรื่อง บทดีมาก มีความเรียล ถ่ายทอดชีวิตให้เข้าใจและหลากหลายมุมมอง คาแร็กเตอร์ตัวละครเป็นคนเทาๆที่ใกล้เคียงความจริง มีมุมมองและความคิดของแต่ละคน ความเข้าใจและเปิดใจต่อกันจะทำให้ทุกคนต่างเข้าใจกัน การตัดต่อดี เนื้อหามีความเดินไปเรื่อยๆเพื่อให้เข้าใจเรื่องราว แต่บางฉากช้าไปก็แอบน่าเบื่อ แต่การเล่าเรื่องเพลินแทรกเรื่องอดีตเข้ามาได้ถูกจังหวะ มุมกล้องดี มีมุมถ่ายทอดสายตาจากมุมคนนอกมา การลำดับภาพกลางๆ มีโทนเรื่องคล้ายแนวหนัง สีภาพออกโทนส้มๆ ฉากดีมาก เข้ากับเรื่องที่มีทั้งบรรยากาศในเมือง และต่างจังหวัด ซาวด์ประกอบเรื่องดี คอสตูมดีมาก เมคอัพดีมาก 


นักแสดงนำของเรื่อง นางเอกพัคมินยอง รับบทเป็นสองพี่น้องฝาแฝดผู้มีบุคลิกและนิสัยที่แตกต่างกัน มันเป็นสองบทที่ท้าทายและค่อนข้างแสดงได้ยากนะ มันมีรายละเอียดปลีกย่อยที่ต้องถ่ายทอดให้คนดูรับรู้และแยกได้ถึงความแตกต่างกันของสองตัวละคร ส่วนตัวก็ค่อนข้างพอใจในการแสดงที่ทำได้ดี การสื่ออารมณ์ความทุกข์ของตัวละครดีมากจนทำให้อินในเรื่องครอบครัวและปัญหาที่รับมือ ชอบในบุคลิกสองแฝดที่มีความแตกต่างแต่มีความอบอุ่น ส่วนพระเอกพัคจินยอง บทนี้ก็เป็นอีกบทที่เด่นรองลงมา เรียกว่าเป็นบทฉนวนความเข้าใจผิดของสองพี่น้องโดยที่ไม่รู้ตัว เป็นตัวละครที่มีสีสันและขาดไม่ได้ การแสดงก็ดีมีความอบอุ่นและเพลินกับความหล่อมาก ส่วนเคมีของทั้งคู่ เคมีดี ไม่ผิดหวัง มีฉากฟินๆบ้าง รักในความสัมพันธ์ของพระนางที่มีความน่ารักและพร้อมเผชิญปัญหาด้วยกัน 


เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์แนวโรแมนติกดราม่า ชีวิต ครอบครัว การทำงาน เรื่องราวของสองแฝดพี่น้องที่สลับตัวตนการใช้ชีวิตในโซลโดยที่ทำให้ทั้งคู่ได้เข้าใจกันและกัน บทดี มีความเรียล ดำเนินเรื่องช้าเพราะเล่าเรื่องใส่ความรู้สึก กลิ่นอายหนัง บางฉากรู้สึกเอื่อยๆเข้ามา แต่การนำเสนอเรื่องดี ให้มุมมองชีวิตที่หลากหลายตามแต่ที่แต่ละคนจะเลือกด้วยตนเอง เป็นแนวที่ให้กำลังใจ เป็นอีกเรื่องที่แมสเสจดี  


#เขียนชีวิตใหม่ในเมืองโซล

#OurUnwrittenSeoul

#NetflixTH

ซีรี่ส์เกาหลี : ให้ตายเถอะ ลูกความผี


 

🇰🇷 ให้ตายเถอะ ลูกความผี 10/10

Oh My Ghost Client

10 ตอนจบซับไทย Netflix , Viu Thailand 


เรื่องย่อ 

โนมูจิน ทนายความแรงงานที่ต้องรับคดีเป็นทนายให้ความช่วยเหลือแก่เหล่าลูกความที่เสียชีวิตไประหว่างทำงาน เพื่อแลกกับการมีชีวิตรอดจากอุบัติเหตุ 


รีวิว 

เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์แนวคอมเมดี้ ดราม่า กฎหมาย แฟนตาซี เรื่องราวของทนายแรงงานผู้ประสบปัญหาชีวิต เริ่มต้นชีวิตใหม่โดยการเปิดสำนักงานทนายแรงงานโดยเป็นทนายช่วยเหลือลูกความที่เสียชีวิตไป เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม แลกกับโอกาสที่เขารอดชีวิตจากอุบัติเหตุ โดยมีน้องภรรยาและอดีตนักข่าว เจ้าของช่องออนไลน์คอยช่วยเหลือในการวางแผนในคดีต่างๆ 


โนมูจิน ลาออกจากงานบริษัทกฎหมายที่มั่นคงมาเล่นหุ้น แต่เขาหมดตัวอยากกลับไปทำงานเดิม แต่รุ่นพี่ที่สนิทกลับแนะนำให้เขาไปสอบทนายแรงงานไว้เพื่ออนาคต เมื่อเขาสอบทนายแรงงานผ่านรุ่นพี่คนนั้นกลับลาออกจากบริษัทไปแล้ว อีกทั้งเขายังทะเลาะกับภรรยาจนครอบครัวแตกแยก จนทำให้ชีวิตเขาหมดหนทาง เขาจึงกู้เงินเพื่อทำสำนักงานทนายความแรงงาน แต่จนแล้วจนเล่าเขาก็ยังไม่มีลูกความมา จนนาฮีจู บล็อกเกอร์สาวน้องภรรยาสงสาร ทนไม่ไหวที่พี่เขยหมดกำลังใจต่อสู้กับชีวิต จึงดึงโดคยอมอู มารวมทีมกันไปตามสถานที่ต่างๆเพื่อตรวจความเรียบร้อยความปลอดภัยในการทำงานโดยจ่ายเงินให้พวกเขาก่อนที่จะยื่นฟ้องร้อง แต่ระหว่างนั้นโนมูจินเกิดอุบัติเหตุจนเขาได้พบกับเทวดาที่ขอให้เขาทำคดีเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่คนที่เสียชีวิตจากการทำงานเพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนให้เขาได้มีชีวิตต่อไป 


การดำเนินเรื่อง เรื่องนี้เล่าเป็นเรื่องราวของแต่ละคดี ซึ่งสำนักงานทนายความแรงงานต้องเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่ลูกความของเขากลับเป็นคนที่เสียชีวิตไปในระหว่างการทำงาน ในฐานะลูกจ้างหรือแรงงานที่จากไปโดยที่ไร้ความยุติธรรมจากนายจ้าง ซึ่งกลุ่มนี้ต้องช่วยเหลือเพื่อเปิดโปงความจริง เรียกร้องความยุติธรรม เนื้อหามีความแฟนตาซีผสมคอมเมดี้ ที่ใส่มาให้เรื่องราวไม่เครียดเกินไป เล่าย้อนเรื่องราวค่อนข้างเยอะ เนื้อหาให้ความรู้เรื่องกฎหมายแรงงาน อธิบายสิทธิของแรงงานที่ถูกเอาเปรียบ ส่วนตัวมองว่าเรื่องนี้เป็นแนวที่ให้ความรู้ ต่อสู้กับกฎหมาย เรียกร้องความยุติธรรมโดยนำเสนอให้ทุกคนได้เข้าใจและมีความกล้าที่จะต่อสู้เพื่อสิทธิของตน แม้ว่ากฎหมายจะต้องใช้เวลาในการต่อสู้ก็ตาม อีกทั้งได้เข้าใจมุมมองความคิดของทั้งลูกจ้างและนายจ้างที่คิดไม่ตรงกัน ชื่อเรื่องมาจากการที่ลูกความของทนายแรงงานคือแรงงานหรือลูกจ้างที่เสียชีวิตไป ซึ่งเขาต้องใช้กฎหมายเรียกร้องความเป็นธรรมให้  


เนื้อหาช่วงต้น เปิดเรื่องมาตอนแรกปูเรื่องช้านิดนึง เล่าเรื่องย้อนไปถึงที่มาของแต่ละตัวละครก่อนมารวมกลุ่มกัน พอเข้าเนื้อหาตอนที่สอง รู้สึกเรื่องราวสนุก ตื่นเต้น โฟกัสเรื่องง่ายขึ้น ซึ่ง 2 เคสแรกเป็นจุดเริ่มต้นจากคดีเล็กๆของเด็กใหม่ที่เพิ่งเข้ามาสังคมการทำงานที่ไม่เป็นธรรม ซึ่งกลุ่มสำนักงานทนายแรงงานเล็กๆนี้ต้องหาทางช่วยเหลือทุกทางเพื่อเปิดโปงความจริงไว้ ความสัมพันธ์ทีมก็ต่างใช้จุดแข็งของแต่ละคนมาร่วมมือกัน อาจจะมีน้ำให้เบื่อบ้างแต่ก็ยังสนุกดีต้องอดทนไปก่อน ถ้าไม่สนุกก็ผ่านไป ช่วงกลางเรื่อง ส่วนตัวว่าเนื้อหาค่อนข้างทำดีขึ้น มีความน่าตื่นเต้นเพราะเคสมีขนาดใหญ่ขึ้น และมีผู้เกี่ยวข้องที่ระดับบิ๊กที่ต้องรับมือ ปัญหาที่ต้องรับมือยากเลยทำให้เรื่องสนุกขึ้นมาก เพราะมันเป็นเคสของทนายที่รู้จักและเป็นคนใกล้ตัวจากคนรู้จักที่เขาไม่คาดคิด ให้กำลังใจทีมให้ผ่านพ้นไปด้วยดี 


บุคลิกของตัวละคร โนมูจิน ชายหนุ่มซื่อๆ เชื่อคำคนง่ายเพราะเรื่องเงิน แต่มีความฉลาดและเก่งสอบทนายแรงงานได้ไว แต่ไร้แพชชั่นที่จะทำงานเพราะความไม่เอาไหนจนภรรยาขอแยกทาง จึงต้องให้น้องเมียช่วยเหลือ แต่เขาเป็นคนดีที่รักความยุติธรรม ใช้กฎหมายช่วยเรียกร้องความยุติธรรมให้แก่เหล่าลูกจ้าง นาฮีจู บล็อกเกอร์สาว น้องเมียของทนายโนมูจิน พูดเก่ง มีความคิดวางแผนการทำงาน เป็นมันสมองของทีมที่พึ่งพาได้ เคารพพี่เขยเพราะเขาเคยช่วยเหลือเรื่องเรียน ส่วนโคกยอมอู อดีตนักข่าวหนุ่ม ผู้ลาออกเพราะข้อจำกัดมาทำงานเป็นเจ้าของช่องออนไลน์ เป็นเสมือนผู้นำเสนอเรื่องราวความจริงให้แก่สาธารณชนได้รับทราบเรื่องราวที่เหล่านายจ้างเอารัดเอาเปรียบลูกจ้างที่เสียผลประโยชน์โดยที่ไม่รู้กฎหมาย รวมถึงหาแหล่งข้อมูลจากนักข่าวให้ทีม


บทสรุปของเรื่อง เรื่องนี้ถ้าจะเน้นความมันส์ ความสะใจส่วนตัวว่าไม่ตอบโจทย์นะ บทสรุปเป็นการเรียกร้องความเป็นธรรมทางกฎหมายให้เกิดความยุติธรรม เป็นตัวกลางของนายแจ้งและลูกจ้างมากกว่า องค์ประกอบอื่นของเรื่อง บทดีมาก ให้ความรู้และความเข้าใจเรื่องสิทธิแรงงาน ให้ความกล้าที่จะเรียกร้องความเป็นธรรมและการแก้ไขกฎหมายแรงงาน บทมีความโอเวอร์บ้างแต่ก็สนุกดี ไม่เสียอรรถรส เนื้อหาไม่ได้ออกทพะเลไปไกล การตัดต่อดี แม้ช่วงต้นจะมีเนื้อหาที่ค่อนข้างน้ำเยอะ แต่ก็ตัดต่อเรื่องราวให้รู้สึกสนุก และเข้าใจอารมณ์กับความรู้สึกของตัวละครได้ชัดเจน ให้อารมณ์ที่เข้าถึงเรื่องง่าย มีฉากที่ทำให้ต้องร้องไห้อย่างอดไม่ได้ การลำดับภาพดีมาก มุมกล้องดี สีภาพสวย ฉากดี CG ดีมาก ซาวด์ประกอบดีมาก ทำให้เรื่องสนุกขึ้นมาก คอสตูมดี เมคอัพดี 


นักแสดงนำของเรื่อง โนมูจินรับบทโดยจองคยองโฮ บทนี้เป็นบทที่เข้ากับเข้ามาก การแสดงดีเพราะบทมีทั้งความดราม่านิดๆ ความตลก และความน่าเชื่อถือในฐานะทนายที่ต้องมีความยุติธรรม เป็นการแสดงที่ดี เป็นอีกบทที่ประทับใจ บทนาฮีจูรับบทโดยซอลอินอา เป็นบทฝ่ายหญิงที่มีความเหมาะสมกับสถานการณ์ในทีม มีความเป็นผู้หญิงฉลาด ขาลุย ต่อรองไม่แพ้ใคร บทนี้อินเนอร์และการแสดงดีมากจนทำให้รู้สึกเป็นอีกบทที่ค่อนข้างชอบคาแร็กเตอร์นี้ สุดท้ายบทโคกยอนอูรับบทโดยชาฮังยอน เป็นชายหนุ่มที่หล่อและมีเสน่ห์ เป็นสายซัพพอร์ตของทีม ที่มีความสำคัญ การแสดงก็ทำได้ดี เล่นเข้าขากับอีกสองตัวละคร เป็นสายออกความเห็นในกรณีที่ทีมจนมุมได้เช่นกัน ชอบในการออกแบบคาแร็กเตอร์ที่โดดเด่นและปิดจุดอ่อนของทีมให้มีความสมบูรณ์ดีมาก เป็นอีกทีมของทนายที่ครบเครื่องทั้งผู้รู้กฎหมาย การตลาด การถ่ายทอดสด 


เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์แนวดราม่า คอมเมดี้ กฎหมาย แฟนตาซี เรื่องราวของทนายความแรงงานที่ต้องรับเรื่องร้องทุกข์จากเหล่าวิญญาณที่มาร้องขอความเป็นธรรมให้เขาช่วยเหลือ บทดีมาก เน้นเรื่องราวของแรงงานที่เสียชีวิตไปในอุบัติเหตุการทำงาน ใหความรู้และให้ตระหนักถึงความปลอดภัยต่อแรงงานที่มีความสำคัญในทุกอาชีพ เป็นเนื้อหาที่ย่อยง่าย เข้าใจง่าย มีแนวแฟนตาซีและคอมเมดี้สอดแทรกให้เรื่องไม่หนักจนเกินไปที่จะดู เป็นอีกเรื่องที่ประทับใจมาก สนุกมากที่หวังไว้ แนะนำว่าไม่ควรพลาด 


#ให้ตายเถอะลูกความผี

#OhMyGhostClient

#NetflixTH

ซีรี่ส์จีน : ด้วยแสงแห่งรัก

 


🇨🇳 ด้วยแสงแห่งรัก 9/10

Reborn

23 ตอนจบซับไทย WeTV Thailand , Viu Thailand , TrueVisions 


เรื่องย่อ 

เรื่องราวปัญหาชีวิตและครอบครัวของวัยรุ่น เฉียวซิงอวี่ เด็กสาวที่พยายามตามหาความจริงที่ครอบครัวปิดบังกับหมิงเซิ่ง เด็กหนุ่มผู้มีครอบครัวที่พ่อแม่แยกทาง ความทุกข์จากครอบครัวทำให้ทั้งสองต้องเรียนรู้และให้กำลังใจกัน 


รีวิว 

ซีรี่ส์เรื่องนี้ดัดแปลงมาจากนิยาย ยังไม่มีแปลไทย แนวโรแมนติกดราม่า ครอบครัว วัยรุ่น ชีวิต เรื่องราวปัญหาชีวิตของเด็กวัยรุ่น วัยที่เผชิญกับช่วงหัวเรี่ยวหัวต่อของชีวิตจากปัญหาในครอบครัวที่ระหองระแหงและความฝันที่ยังไม่มั่นคง ทำให้เด็กสาวผู้สููญเสียพี่สาว โดยที่เธออยากรู้ความจริงที่ครอบครัวปิดบังเอาไว้และเด็กหนุ่ม ที่พ่อแม่แยกทางกัน โดยทิ้งเขาไว้กับพ่อที่ไม่มีเวลาให้ ความขาดความอบอุ่นและที่ปรึกษาที่ดีจากครอบครัวกลับทำให้ทั้งคู่ได้เข้าใจกัน 


ครอบครัวของนางเอกย้ายมาอยู่ในเมือง เพื่อการเรียนของนางเอกและน้องชาย โดยเช่าบ้านและร้านบะหมี่เพื่อใช้ชีวิต ครอบครัวของนางเอกแท้จริงเพิ่งสูญเสียพี่สาวคนโตไป ซึ่งทุกคนในครอบครัวยังคงตกอยู่ในความเสียใจและห้ามเอ่ยถึงพี่สาวในบ้านเด็ดขาด นางเอกนั้นสงสัยความจริงเรื่องราวของพี่สาวที่ถูกทั้งครอบครัวปกปิดไว้ จึงพยายามตามหาความจริง ซึ่งนางเอกได้ขอความช่วยเหลือนำข้อมูลจากโรงพยาบาลมาด้วยความช่วยเหลือของพระเอก เพื่อนร่วมชั้นที่เขาพยายามเข้าหานางเอก จนทำให้นางเอกได้พบความจริงว่าทุกคนในครอบครัวมีส่วนทั้งทางตรงและทางอ้อมให้พี่สาวต้องเสียชีวิต นางเอกจึงตัดสินใจเปิดเผยความจริงในงานแต่งงานของญาติในตระกูล จนทำให้นางเอกถูทำให้กลายเป็นคนทำลายทุกอย่าง ความทุกข์ในชีวิตวัยรุ่นจึงเกิดเป็นบททดสอบที่นางเอกต้องฝ่าฟัน 


การดำเนินเรื่อง เรื่องนี้นำเสนอการเติบโตของชีวิตในมุมของเด็กวัยรุ่นที่มีความสะท้อนสภาพสังคม ค่านิยม และความคิดของวัยรุ่นในช่วงปี 2000S ชีวิตของวัยรุ่นช่วงหัวเรี่ยวหัวต่อที่ต้องพบความบีบคั้นของระเบียบสังคม ในโรงเรียนและในสายตาพ่อแม่หรือทั้งครอบครัว หรือสถานะที่น่าอึดอัดในฐานะลูกสาว ที่ไม่สามารถมีความอิสระได้ จนเกิดโศกนาฎกรรมเกินกว่าที่ตนจะรับได้ สะท้อนผลของการกระทำ ความคิดและวัยที่ยังไม่ทันไตร่ตรองถึงผลดีและผลเสียที่ต้องรับผลการกระทำ มันเป็นผลลัพธ์ที่เคยเกิดขึ้นในสังคมโดยที่ยังไม่มีความหลากหลายทางความคิด เนื้อหาเป็นบทดราม่าหนัก บรรยากาศอึมครึมน่าอึดอัดใจ แต่เป็นภาพจริงในสมัยก่อน โดยทุกอย่างจะคลี่คลายได้ด้วยวัยและเวลาเวลาเป็นตัวดำเนินไปเพื่อให้ทุกคนได้เข้าใจและเรียนรู้ความผิดพลาด ชื่อเรื่องที่มาสรุปไว้ท้ายเรื่อง เอาเป็นว่าไปดูเองละกัน


เนื้อหาช่วงต้น เปิดมาด้วยชีวิตครอบครัวของนางเอกที่มีความเป็นครอบครัวจีนที่มีความน่าอึดอัดใจ ด้วยค่านิยมโบราณที่กดขี่ผู้หญิง เอนเอียงเข้าข้างลูกหลานผู้ชาย ต้นเหตุที่ทำให้เกิดโศกนาฎกรรมในครอบครัว ซึ่งนางเอกทำทุกวิถีทางเพื่อเปิดเผยความจริงโดยที่มีพระเอก เพื่อนร่วมห้องที่มีปัญหาชีวิตครอบครัวที่ไม่ต่างกันช่วยเหลือ เรื่องราวค่อนข้างดราม่า ส่วนตัวเข้าใจในบทเพราะผ่านชีวิตแบบนี้มา แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่บทบางจุดก็เกินจริง ทำดราม่าจนเกินไป กลางเรื่อง ตัวเอกตัดสินใจที่จะเปิดเผยความจริง เรื่องราวอันดำมืดของครอบครัว ซึ่งในวัยของตัวเอกเป็นเรื่องใหญ่ที่มุ่งมั่นต้องทำจนลืมนึกถึงสถานการณ์เลวร้ายภายหน้าที่จะเกิดขึ้นและกระทบต่อทุกคน เนื้อหาดราม่า เข้าใจในการกระทำของตัวเอก แต่ในความคิดของวัยรุ่น ถ้าหากคนดูที่เคยผ่านวัยและเรื่องราวมาทุกคนจะเข้าใจตัวเอกมาก และมันฉุกคิดถึงอดีตของตน แต่ก็เข้าใจในตัวเอกนะเพราะมันก็ไม่ได้ไร้เหตุผล เนื้อหาค่อนข้างเรียลโดยส่วนตัว แต่ตัวเอกเองก็จะได้รับบทเรียน ได้เข้าใจผู้คนอื่นมากขึ้น เพื่อเติบโตเตรียมพร้อมกับชีวิตในอนาคต เนื้อหาแม้เครียดแต่ก็ยังดูต่อเพราะเรื่องราวยังจุดที่ยังไม่ชัดซะทีเดียว 


บุคลิกของตัวละคร นางเอก เป็นลูกสาวคนกลางที่มีความคิดของตนเอง เติบโตมากับพ่อแม่ บรรยากาศอึมครึมในครอบครัวทำให้เธออยากรู้ความจริงสิ่งที่เกิดกับพี่สาวจนได้รู้ถึงความทุกข์ของพี่ ที่เสียสละเพื่อปกป้องนางเอกและน้องชาย ด้วยความรู้สึกผิดจึงอยากให้พี่สาวไม่ต้องถูกคนว่าร้ายอีก มีความกล้าหาญที่จะเปิดเผยความจริงโดยที่ไม่กลัวผลกระทบที่ตามมา มีความแน่วแน่ที่และมีเหตุผลสำหรับเด็กวัยเดียวกัน ส่วนพระเอก เป็นคนเรียนเก่ง ภายนอกดูเกเร แต่เขาก็มีความเป็นสุภาพบุรุษ ชีวิตครอบครัวไม่เข้าใจพ่อ เพราะพ่อทำแต่งานไม่มีเวลาให้ แถมยังทำให้เขากับแม่ต้องแยกกัน มีน้ำใจต่อนางเอก และคอยช่วยเหลือนางเอกเวลาโดนรังแก เขายอมซัพพอร์ตนางเอกในทุกการกระทำ เพราะนางเอกมีความเชื่อมั่นที่จะทำในสิ่งที่ถูกต้อง โดยที่ไม่ทับถมนางเอกเหมือนอย่างคนอื่น  


บทสรุปของเรื่อง ทุกเรื่องราวดราม่าที่เกิดขึ้นนั้น เป็นเสมือนบททดสอบชีวิตที่แต่ละคนประสบ เวลาที่เหมาะสมและความเข้าใจต่อกันเป็นสิ่งที่จะทำให้เรื่องราวผ่านพ้นปสรรคไปได้ มันสะท้อนเรื่องราวและเพื่อความเข้าใจในชีวิต องค์ประกอบอื่นของเรื่อง บทดีมาก สะท้อนมุมมองความคิดทางครอบครัว สังคม การใช้ชีวิตที่เป็นการสะท้อนความจริง สะท้อนมุมความคิดที่มีหลายมุมมองซึ่งแต่ละคนนั้นแตกต่างกัน บทพูดที่มีความเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งกินใจ เตือนสติในฉุกคิดก่อนจะตัดสินใจใดๆ แทรกการแก้ปัญหาแบบสมัยใหม่เข้ามาด้วย แต่เรื่องราวก็ทำให้เข้าใจในเรื่องชีวิตคนเราก็ไม่แตกต่างกัน การตัดต่อดี เนื้อเรื่องดราม่า หนักหน่วง แต่ยังทำให้ดูต่อได้เพลินๆ สื่ออารมณ์ความรู้สึกเรื่องราวได้ชัดเจนประทับใจ มีอารมณ์ร่วมทั้งสุขและทุกข์ เข้าใจเรื่องราวแม้จะตัดสลับอดีตกับปัจจุบันหลายครั้งก็ตาม มุมกล้องดีมาก ฉากดีมาก สะท้อนชีวิตของแต่ละตัวละครได้ชัด สีภาพสวย มีหลากหลายโทน ซาวด์ประกอบเรื่องดีมาก คอมตูมดี เมคอัพดี 


นักแสดงนำของเรื่อง นางเอกจางจิ้งอี๋ บทนี้เป็นเด็กสาวที่ชีวิตหนักหน่วง แถมยังถูกสภาพแวดล้อมบีบให้มีชีวิตแบบจำยอม ความจริงทำให้เลือกที่จะเดินหน้า บทนี้เป็นบทที่ท้าทายฝีมือ ค่อนข้างใช้อินเนอร์และอารมณ์ค่อนข้างเยอะ แสดงได้ดี แต่ส่วนตัวอารมณ์ทางสายตาบางฉากยังไม่ชัดเจน อาจเพราะวัยและประสบการณ์อาจจะยังไม่เข้าใจเรื่องราวแบบนี้ ซึ่งเรื่องนี้ถ่ายนานแล้ว 2 ปีเพิ่งได้ออน แต่เรื่องนี้น้องสวยมากในวัยที่ไม่ติดความเด็กน้อยละ ส่วนพระเอกโจวอี้หราน บทนี้เป็นบทถนัดที่เขารับบ่อยๆ การแสดงถือว่าทำได้ดีเช่นเคย แม้ชาวเน็ตจีนก็ค่อนข้างวิจารณ์เขาเยอะ แต่ส่วนตัวเขาหน้าตาดี ภาพเคลื่อนไหวค่อนข้างดีกว่าภาพนิ่ง ถือเป็นดาวรุ่งชายที่ยังต้องพิสูจน์ฝีมือและยังมีอนาคตในวงการอีกนาน ส่วนเคมีของพระนาง เคมีดีมาก ฉากหวานไม่ได้เยอะ แต่ค่อนข้างฟินมากในการรับส่งอารมณ์ร่วมกัน ไม่รู้สึกถึงวัยที่ห่างกัน  


เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์แนวโรแมนติกดราม่า ครอบครัว วัยรุ่น ชีวิต เรื่องราวของวัยรุ่นที่มีปัญหาเรื่องครอบครัว รวมถึงความฝันที่ไม่ชัดเจน ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องเรียนรู้และผ่านความเข้าใจในชีวิต บทดีมาก สะท้อนเรื่องราวของวัยรุ่นกับการเผชิญปัญหาชีวิตการเรียน เพื่อนและครอบครัว มีบทพูดที่ให้กำลังใจในการใช้ชีวิตที่ดี นำเสนอความคิดที่หลากหลายมุมมองความแตกต่างของเด็กและผู้ใหญ่ที่ทำให้เข้าใจมากขึ้น เพราะชีวิตก็เป็นแบบนี้ การต่อดี เนื้อหาดราม่าหนักแต่ยังดูสนุกไม่น่าเบื่อ แต่บางฉากก็เน้นให้ดราม่าไม่มีเหตุผลจนเกินไป แต่ยังไงเรื่องนี้ก็ขอยืนยันว่าเป็นเนื้อเรื่องที่ดี อยากให้ทุกคนเปิดใจดู แม้ว่าเนื้อหาจะดราม่าหนักก็ตามแตกต่างจากภาพโปรโมท รับรองความสนุกที่ไม่ผิดหวัง 


#ด้วยแสงแห่งรัก

#Reborn

ซีรี่ส์เกาหลี : เกมลุ้นตาย 3

 



🇰🇷 เกมลุ้นตาย 3 7/10

Squid Game 3

6 ตอนจบซับไทย&พากย์ไทย Netflix 


เรื่องย่อ 

พัคกีฮุน ผู้เล่นเก่าที่ชนะจากซีซั่นแรก ได้หาวิธีที่จะต่อสู้เอาตัวรอดเพื่อพาทุกคนออกไปจากเกมอันน่าสะพรึงกลัวนี้ แต่แผนการเขากลับล้มเหลวในฐานะผู้นำและทำให้สถานการณ์ตกเป็นรองและยังต้องฝืนเล่นเกมต่อไปจนกว่าจะได้บทสรุป 


รีวิว 

เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์แนวดราม่า ระทึกขวัญ สู้ชีวิต เอาตัวรอด เรื่องราวบทสรุปของการต่อสู้ของเกมอันโหดร้ายจากด่านอันตราย ซาดิสม์เกินมนุษย์ ให้มีชีวิตรอดพร้อมนำเงินรางวัลกลับ แต่สถานการณ์กลับมีแต่ความโหดร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ กดดัน ไร้ทางรอดและมืดมน นี่คือบทสรุปสุดท้ายที่ต้องยอมรับ 


เรื่องราวที่ต่อเนื่องมาจากช่วงท้ายของภาค 2 ที่พัคกีฮุน เสียสละที่จะเป็นผู้นำของผู้เล่นที่อยากเลิกเล่นเกมนี้ต่อสู้กับระบบเกมอันโหดร้ายที่ควบคุมไม่ได้ แต่ในท้ายที่สุดเขากลับถูกคนที่เชื่อใจหักหลัง พ่ายแพ้ในศึกครั้งนี้ แถมยังสูญเสียคนที่เชื่อใจเขาไปเกือบหมด นอกจากนี้เขายังต้องถูกคนอื่นมองด้วยสายตาผิดหวัง กล่าวโทษสิ่งที่เกิดขึ้นว่าเป็นเพราะเขา ทำให้เขาจมอยู่ในความผิดและต้องตกอยู่ในสถานการณ์สิ้นหวังท้อแท้เกินกว่าจะลุกขึ้นมาสู้อีกครั้ง แถมเขายังต้องเล่นเกมแบบจำยอมต่อไปจนกว่าจะถึงเกมสุดท้าย 


การดำเนินเรื่อง แม้ภาคนี้จะเป็นภาค 3 บทสรุปของเรื่องราว แต่โดนส่วนตัวมันคือพาร์ท 2 ของภาค 2 ถึงจะถูกต้องกว่า ภาคบทสรุปนี้ค่อนข้างมีแต่ความน่าอึดอัด หดหู่ และดูไม่มีความหวังใดๆเหลือเลย จากผลการต่อสู้ที่พ่ายแพ้จากภาค 2 ตัวละครเอกซึ่งถือเป็นผู้นำนั้นกลับหมดสิ้นความหวัง เกมพลิกกลายเป็นฝั่งผู้ควบคุมเกมและเหล่าผู้เล่นที่ฝ่ายเห็นต่างที่ต้องการเล่นนั้นกลับได้เปรียบแทน ก็ยังยืนยันจากภาคแรกนะ ว่าเนื้อหามันคือการจำลองโลกมนุษย์ที่ให้เข้าใจชัดขึ้นในรูปแบบเกม เชื่อมโยงเรื่องชีวิต การเอาตัวรอด การเมือง บรรทัดฐานสังคม ความแตกต่างทางชนชั้น แต่ความสมเหตุสมผลกลับลดทอนลงไปเยอะในภาค 3 นี่แหละคือสะท้อนชัดโลกของทุนนิยมที่เข้ามามีอิทธิพลในผลงาน จากมาตรฐานภาคแรกที่เคยทำมาตรฐานไว้ได้ดีมาก กลับถูกทำลายด้วยฝีมือของนายทุนต่างๆที่แสวงหาผลประโยชน์ กระทบคนที่สร้างสรรค์ผลงานด้วยใจจริง 


ส่วนตัวค่อนข้างผิดหวังกับเนื้อหาภาค 3 นี้หลายจุดมากๆ เพราะเนื้อหาขาดความรู้สึกร่วมกับเรื่องราว ปูพื้นหลังตัวละครไม่น่าจดจำ ตัวละครบางตัวมีความเล่นใหญ่ จงใจสร้างเรื่องให้วุ่นวาย ไร้แบบแผน ไร้เหตุผล ดูเป็นตัวละครที่ไม่มีความรู้สึกน่าเห็นใจเท่าไร แตกต่างจากภาค 1+2 ที่ผู้เล่นจำเป็นต้องเลือกทำเพื่อเอาชีวิตรอดและมีความเห็นอกเห็นใจ ความรู้สึกผิดต่อกัน เกมออกแบบใหม่ภาคนี้ค่อนข้างธรรมดา ดูเล่นง่าย ไม่มีตัวแปรอย่างการ์ดชุดชมพูมาปั่น กลายเป็นผู้เล่นขัดขวางกันเอง ถ้ามองในโลกความเป็นจริงก็พอเข้าใจนะ แต่สำหรับบทซีรี่ส์ส่วนตัวค่อนข้างเสียอรรถรสพอสมควร ดูไปต้องมาคอยนั่งวิเคราะห์ตลอดหลายฉากว่าทำไมตัวละครเป็นแบบนี้ มันสะท้อนเรื่องใด สถานการณ์ใดตลอดเวลา แทนที่จะนำเสนอเรื่องราวให้เข้าใจง่ายๆไปเลยแบบภาคแรกจะดีกว่า 


บุคลิกของตัวละครที่เด่นในภาค 3 พัคกีฮุนผู้เล่น 456 ที่หมดแรงที่จะต่อสู้ จำใจต้องเล่นเกมตามฝ่ายเสียงข้างมากที่ต้องการเล่นเกมอันตรายอยู่ สะท้อนถึงผู้นำ/แกนนำที่สร้างความหวังสู้เพื่อทุกคน แต่สุดท้ายพ่ายแพ้ ทุกคนโทษเขาจนตัวเขาจมในความรู้สึกผิดและตั้งคำถามกับการกระทำ อีกทั้งพยายามหาความผิดจากคนอื่น ผู้เล่น 333 นักลงทุนคริปโตที่มุ่งมั่นจะชนะเกมนี้เพื่อนำเงินออกไป เป็นตัวละครสะท้อนตัวแทนหนุ่มสาวในสมัยใหม่ ที่อยากจะมีชีวิตที่ดี พยายามเติบโตด้วยวิธีหาเงินใหม่ๆแต่ต้องล้มเหลวเพราะปัจจัยที่ควบคุมไม่ได้ เป็นตัวละครที่เห็นแก่ตัว เน้นเอาชีวิตรอดเพื่อตัวเองเท่านั้น ไม่เห็นใจใคร ยอมทิ้งได้แม้แต่คนรักและตัวละครลับที่เกี่ยวข้องกับเขาได้ ฟรอนต์แมน หัวหน้าผู้ดูแลเกมที่ยินยอมรับเกมนี้โดยไม่เปลี่ยนแปลง เพราะเขามองว่าต่อให้เขาจะถูกจัดการ เกมก็ยังคงหาตัวแทนต่อได้ ตัวละครนี้เปรียบเสมือนนายทุนที่จัดการ ตัวกลางระหว่างชนชั้น บริการความบันเทิงสนองเหล่าชนชั้นสูงที่มีทั้งเงินทองและอำนาจ


บทสรุปของเรื่อง จบลงด้วยความหดหู่ หมดสิ้นความหวังที่จะต่อสู้ แถมเป็นการจบที่พยายามปูเรื่องขยายไปยังลิขสิทธิ์ให้แก่ฝั่งบันเทิงและนายทุนตะวันตก ที่ได้ข่าวมาคือจะมีเวอร์ชั่นอเมริกา ซึ่งแน่นอนว่าภาคนี้ของเวอร์ชั่นเกาหลี เป็นเวอร์ชั่นสุดท้ายที่จะไม่มีภาคต่ออีก องค์ประกอบอื่นของเรื่อง บทไม่ดีเท่า 2 ภาคแรกเพราะผู้กำกับเปลี่ยนแปลงบทตอนจบกะทันหัน จากเดิมที่ควรจะจบลงอย่างเคลียร์ปมกว่านี้ จึงทำให้เรื่องราวค่อนข้างสะเปะสะปะ ไร้ตรรกะเหตุผล บีบให้จบแบบส่งต่อไปเวอร์ชั่นประเทศอื่น การตัดต่อไม่แตกต่างจากภาค 2 แถมเนื้อหาที่ไม่ชวนตามจึงรู้สึกต้องฝืนดูให้จบ การลำดับภาพกลางๆ มุมกล้องดี สีภาพดี ภาพสวย ฉากดีมาก CG ดีมาก ซาวด์ประกอบดี คอสตูมดีมาก เมคอัพดีแบบสมจริงและเอฟเฟ็คส์


นักแสดงนำของเรื่อง อีจองแจในบทพัคกีฮุน เป็นนักแสดงที่เก่ง มีผลงานดังและมีฝีมือการแสดงที่ดีเยี่ยม สมกับเป็นนักแสดงฝ่ายชายที่มีค่าตัวสูงสุด นี่เป็นอีกตัวละครที่ทำให้อาชีพนักแสดงของเขามีคนได้รู้จักกว้างขวางขึ้น เป็นนักแสดงที่มีอิมแพคและได้รับโอกาสใหม่ๆเข้ามา อิมชีวานในบทอีมยองกี บทภาค3 นี้เขาได้ปล่อยของ ปล่อยฝีมือทางการแสดงได้เต็มที่เพราะบทหลักมาอยู่ภาคนี้ แต่น่าเสียดายที่เขาต้องแบกบทที่เปลี่ยนแปลงหน้างานจนทำให้กลายเป็นตัวละครที่รู้สึกไม่น่าจดจำ ภาคนี้ตัวละครเด่นค่อนข้างหายไปเยอะ บทสำคัญกลับไปที่ตัวละครสมทบเยอะ ซึ่งมันไม่มีความตราตรึงสักเท่าไร และตัวละครลับที่ยัดเข้ามาให้เรื่องราวมันไร้ตรรกะเข้าไปอีก เอาเป็นว่านักแสดงเก่งมากที่แบกบทมาจบเรื่องได้ 


เรื่องนี้เป็นซีรี่ส์แนวดราม่า ระทึกขวัญ สู้ชีวิต เอาตัวรอด บทสรุปเรื่องราวของเกมอันโหดร้ายที่บีบให้เหล่าผู้เล่นต้องแข่งขันเพื่อเงิน ด้วยวิธีโหดร้ายเพื่อเป็นผู้ชนะ โดยอดีตผู้แข่งขันที่ชนะจากซีซั่นแรกเข้ามาในเกมอีกครั้งเพื่อทำลายเกมนี้เพื่อไม่ให้ใครต้องสูญเสียชีวิตอีก บทสรุปค่อนข้างน่าผิดหวัง บทไม่มีเหตุผล ตรกกะความมีเหตุผลของตัวละครขาดหายไป ความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครที่สิ่งที่ทิ้งไปซึ่งรับไม่ได้ที่สุด มันคือข้อเสียที่ซีรี่ส์แมสขึ้นจนฝืนสร้างขึ้นมาอีก นี่เป็นบทสรุปสุดท้ายที่จะไม่มีการสร้างภาคต่ออีก เป็นบทสรุปที่ค่อนข้างน่าผิดหวัง ส่วนตัวยังยกให้ภาคแรก เป็นภาคที่ดีที่สุดเท่านั้น  


#เกมลุ้นตาย3

#SquidGame3

#NetflixTH

ซีรี่ส์เกาหลี : เพลงรัก วัยละมุน

  🇰🇷 เพลงรักวัยละมุน 8/10 Spring Of Youth 10 ตอนจบซับไทย Netflix  เรื่องย่อ  ข่าวฉาวที่เกิดขึ้นทำให้ซากเย นักร้องนำวงไอดอลดังต้องออกจากวง ...