🇰🇷 Now, We Are Breaking Up 8/10
16 ตอนจบซับไทย Viu Thailand
เรื่องย่อ
ฮายองอึน สาวนักดีไซเนอร์ที่ทำงานในบริษัทดัง เธอมีความฝันที่อยากมีแบรนด์เสื้อผ้าของตัวเอง แต่ด้วยโอกาสที่ไม่อำนวยและการเรียนต่อฝรั่งเศสที่เธอเคยได้รับจากประธานบริษัท ผู้ซึ่งมีพระคุณช่วยเหลือ เพื่อให้เธอทำงานเป็นมือขวาของเพื่อนรัก ผู้เป็นเจ้านายของเธอ เธอจึงจำใจพับความฝันไว้และเลือกใช้ชีวิตไปเรื่อยๆเพื่อความอยู่รอดอย่างมั่นคงทางการเงิน จนวันหนึ่งเธอได้พบกับยุนแจกุก ช่างภาพชื่อดังที่ใช้ชีวิตอิสระ รับงานตามที่เขาต้องการ ผู้มีความฝันสร้างนิทรรศการภาพถ่ายของตนเอง เขาทำให้เธอได้มีความคิดใหม่ๆเพื่อตัวเองและหวนให้นึกถึงรักแรกที่เธอลืมและทิ้งไว้ข้างหลัง ผู้เป็นพี่ชายต่างแม่ของแจกุก ทำให้ความสัมพันธ์ของเธอและเขานั้นมีอุปสรรคจากผู้ใหญ่ แล้วต้องอยู่ในสถานะรักๆเลิกๆ
รีวิว
เรื่องนี้เป็นแนวดราม่า โรแมนติก ความสัมพันธ์เพื่อน ชีวิตวัยทำงาน ชีวิตของหญิงสาวอายุ 30+ เรื่องนี้ดูเพราะชื่นชอบผลงานของจางกียง แถมยังได้ประกบกับนางเอกแนวหน้าอย่างซงฮเยคโยด้วย เลยคิดว่าน่าจะได้รับกระแสตอบรับที่ดี รีวิวเรื่องนี้ที่ดูผ่านๆจากเพจอื่นค่อนข้างจะไปทางไม่ชอบกันส่วนใหญ่ ส่วนนั้นเราก็เห็นด้วยในบางประเด็น แต่รีวิวของเราจะพยายามเรียบเรียงสิ่งที่น่าสนใจละกัน ในมุมมองอื่นๆ เผื่อใครจะอยากตัดสินใจก่อนดู
เปิดเรื่องมาพระนางมีวันไนท์สแตนกัน นางเอกจบแค่คืนนั้นไม่สานต่อ แต่พระเอกไม่ใช่อะ ก็ตามนางเอกกลับมาที่เกาหลี แล้วพระนางก็เจอกันตามงานที่นางเอกทำ เวลานางเอกมีปัญหาเรื่องงานพระเอกก็แอบช่วย จนวันหนี่งพระเอกรู้ว่านางเอกคือแฟนเก่าพี่ชายที่เสียไปแล้ว ฮีก็ตกใจนะไปถามนางเอก นางเอกก็ช็อคเพราะนางลืมรักแรกที่จบไม่สวยไปแล้ว นางเอกไม่รู้ว่าแฟนเก่าตายแล้วนะคิดว่าโดนเท พอความจริงนี้ค้นพบก็นำไปสู่อดีตของพระนางที่เกือบได้เจอกันมีแต่จังหวะนรก แบรนด์ที่นางเอกทำงานพระเอกก็ตั้งให้ จนในที่สุดก็ได้เปิดอกคุยกันทิ้งเรื่องในอดีตมาคบกัน แต่ปัญหาที่ตามมาก็เป็นเพราะพ่อแม่นางเอกกลัวครอบครัวนี้ทิ้งลูกสาวไปอีก กับแม่พระเอกที่ไม่ชอบที่นางเอกมาเป็นมือที่สามกับพี่ชายพระเอกที่มีคู่หมั้นอยู่แล้ว แถมโทษนางเอกที่ทำให้ลูกชายตาย พระเอกเป็นลูกเลี้ยงนะ แต่ก็รักพระเอกเหมือนลูกแท้ๆ
จุดนี้เลยนะที่ทำให้พล็อตเนื้อเรื่องน้ำเน่า แบบละครช่อง3 ช่อง 7 เลย ตั้งแต่เนื้อหากลางเรื่องไปจนจะจบเรื่อง พ่อแม่ของพระนางนิสัยแย่มาก นี่มันไทป์พ่อแม่เอเชี่ยนพาแรนท์เลยไหม ที่ชอบยุ่งเรื่องของลูก ชอบตัดสินใจแทน ชอบบงการ แถมไปกดดันอีกฝ่ายให้เลิกกับลูกตัวเองอีก อันนี้ไม่สามารถอินความรักของพ่อแม่ได้เลย ดูละทำให้รำคานใจอีก นี่แหละจุดอ่อนของเรื่องเลย คือปมความรักพระนางที่ไม่ได้มีแค่ฉันกับเธอ แล้วเนื้อเรื่องพระนางวนเวียนในอ่างไม่ไปไหน มีแต่เรื่องความสัมพันธ์เราจะเอาไงต่อพ่อแม่บ่มักเน้อ นี่หลายเพจถึงได้บ่นกัน แล้วอีกอย่างพระนางอายุไม่ใช่วัยรุ่นนะ วัยทำงานแล้ว มันเลยทำให้ไม่อินกับคู่นี้ไปเลย ขนาดเราดูไปๆยังไม่ฟินเลย มีแต่ดราม่าตลอด รักๆเลิกๆกันอยู่อย่างนั้นทั้งเรื่อง ต่อให้คบกันก็เพียงเพื่อเก็บเกี่ยวความรู้สึกไว้เป็นความทรงจำ เสียชีวิตชีวิตแทนนะแบบนี้ ชีวิตจริงคงเลิกคบคนใหม่ไปละ 😂😂😂😂😂😂😂😂 แล้วนิสัยนางเอกก็แอบน่าหงุดหงิดอีก วางฟอร์มไม่ตอบไรตามตรง คือยิ่งดูยิ่งทำให้เรื่องน่าเบื่ออะ
ส่วนตัวลำไยเนื้อหาความรักพระนางนะ แต่ชอบเนื้อหาการทำงาน การออกแบบแฟชั่นดี มันเป็นบทที่ชูความเป็น working woman ของนางเอกในการจัดการปัญหาต่างๆ แต่ของจริงคงจะวุ่นวายกว่านี้แน่ๆ แล้วก็ชอบประเด็นเรื่องที่เพื่อนนางเอกป่วยเป็นมะเร็งนะ จากชีวิตนางแบบมาสู่อาชีพแม่บ้าน ต้องคอยดูแลลูกและสามี อยู่แต่บ้านไม่ได้ไปไหนต้องคอยทำงานบ้าน แถมยังถูกแม่สามีเรียกร้องขอเงินอยากมีหน้ามีตาแบบเพื่อนฝูงที่มีลูกสะใภ้เปย์ให้บ้าง แล้วอิแม่สามีเนี่ยนะก็รักแต่ลูกชายตัวเอง ไม่แม้แต่ให้ลูกแตะงานบ้านช่วยเมียด้วยซ้ำ ถ้าเห็นลูกทำก็โวยแล้วก็ด่าลูกสะใภ้ว่าไม่ทำหน้าที่แม่บ้านอีก คือถ้าไม่ป่วยจนจะตายเนี่ยก็แทบจะโดนโขกสับต่อเลย ส่วนเพื่อนนางเอกอีกคนเป็นลูกเจ้าของบริษัทตำแหน่งผอ.แต่ไม่สนใจเรื่องแฟชั่นสักเท่าไร ชีดีแต่ใช้ชีวิตสบายๆกิ๊กผู้ชายไปวันๆ ที่นางเอกได้ไปเรียนต่อที่ฝรั่งเศสก็เพราะพ่อเพื่อนส่งเรียนนี่แหละ เรียนจบกลับมาช่วยเป็นมือขวาให้ลูกสาว แถมยังต้องคอยตามเก็บชีวิตเพื่อนที่ทำตัวสร้างปัญหาอีก เห็นอะไรไหม ชีวิตปัจจุบันคนเรา เลยนะ แบบถ้าไม่เป็นแบบนางเอกที่ทำแต่งานไม่ได้สนใจความรัก ต้องใช้ชีวิตแบบเดือนชนเดือนให้พอมีชีวิตรอด ก็แบบเพื่อนที่แต่งงานแต่ตัวเองหมดไฟกับการทำงานต้องอยู่แต่บ้าน หรือจะโชคดีหน่อยก็ลูกคนมีเงินที่จะใช้ชีวิตแบบไหนก็ได้ ยังไงเงินก็ช่วยแก้ปัญหาส่วนนึงได้
ส่วนตัวมันก็ตอกย้ำจริงๆนะว่าถ้ามีเงิน มันก็ช่วยแบ่งเบาภาระ สามารถจัดการกับปัญหา ความทุกข์ในชีวิตได้ ปัจจุบันมันทำให้เห็นเลยนะว่าเงินเป็นสิ่งจำเป็น ใครที่บอกว่าเงินไม่สำคัญคือคนนั้นมีเงินมากไงจนอยากได้สิ่งอื่นที่ไม่ใช่เงินมาทดแทนสิ่งที่ตัวเองขาด การมีเงินมันทำให้โอกาสแต่ละคนเพิ่มขึ้น มีเวลาไปทำอย่างอื่นได้ แต่การไม่มีเงินคือเรื่องทุกข์ใจจริงๆนะ ต้องตกอยู่ในสภาพจำยอมแบบที่นางเอกกับเพื่อนที่เป็นแม่บ้านต้องเจอเลย กลายเป็นคนหมดไฟใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆเลยอะ ทิ้งความฝันที่เคยมี อีกทั้งสภาพสังคมมันบีบให้คนเราต้องประสบความสำเร็จมีเงิน มีบ้าน มีรถ มีครอบครัว ซึ่งเอาตามจริงเลยว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่มีใครได้อะไรทุกอย่างในชีวิต สมหวังกับทุกอย่างหรอก นางเอกมีงานไม่มีครอบครัว ทิ้งความฝันการมีแบรนด์ของตัวเองทำงานในบริษัท เพื่อนนางเอกทิ้งอาชีพมาเป็นแม่บ้าน ส่วนเพื่อนนางเอกชีวิตดี แต่ก็ขาดความรักจากผู้ชายแต่สุดท้ายก็มีความสุขกว่าเพื่อนคนอื่นนะ อันนี้สปอยนะว่าสุดท้ายนางเอกออกจากบริษัทมาเปิดแบรนด์ตัวเอง ตอนแรกติดปัญหาเงินทุนไม่พอเพราะจะผลิตเสื้อผ้าก็ต้องมีขั้นต่ำ จำนวนการผลิต ถ้าผลิตแล้วมันไม่เป็นกำไรโรงงานก็ไม่อยากทำให้นะ แต่ก็โชคดีที่ด้วยความนางเอกเก่งและเคยทำงานที่เก่า ก็เลยได้รับความช่วยเหลือจากพวกเจ้าของโรงงานที่เคยทำงานด้วย จนทำแบรนด์ของตัวเองต่อได้ เห็นอะไรไหมพวกเรา นอกจากเงิน ชีวิตต้องมีคอนเนคชั่นจ้าถึงจะไปต่อได้ ดังนั้นชีวิตจะสบาย = มีเงิน+คอนเนคชั่น จำไว้เลย เวลาไปเถียงกะใครก็ตาม 😉😉😉😉😉😉😉😉 อีกตัวละครเลยก็น้องเพื่อนนางเอก ที่เซฮุนเล่น ก็เป็นตัวละครที่ชิลๆ เกิดมาสบาย ต่อให้มาเป็นเด็กฝึกงานแต่ก็ยังมีคนช่วยเหลืออะ นี่แหละความลูกประธานบริษัทเลยได้เปรียบไม่ต้องเจอกับความลำบากมากนัก
นึกอีกเรื่องขึ้นมาได้ ความสัมพันธ์คู่ชีวิตของพ่อแม่นางเอกก็เป็นอีกบทบาทหนึ่งนะ แม่นางเอกก็ไม่ได้ทำงาน มาเป็นแม่บ้านต้องคอยดูแลลูกและสามี ด้วยความที่แม่ก็มีสังคมเพื่อนนะอยากไปเที่ยวบ้าง แต่พ่อนางเอกไม่ยอมให้ไปสักครั้ง บอกว่าตัวเองจะไม่มีใครดูแลอาหารการกิน เสื้อผ้าให้ เพราะตัวเองไม่เคยทำเองเลยให้เมียทำให้หมด พ่อก็เอาแต่ออกสังคมแถมไม่เคยให้เกียรติแม่แนะนำว่าเป็นภรรยาด้วยซ้ำ คือสังคมเกาหลีผู้ชายเป็นใหญ่แล้วกดอำนาจผู้หญิงอีก พอพ่อนางเอกเกษียณ นางเอกก็โตพอดูแลตัวเองได้ แม่นางเอกก็จะฟ้องหย่า แล้วแม่ก็พรั่งพรูความทุกข์ในชีวิตคู่มาตลอด 40 ปี หลักเลยๆคือพ่อเห็นแก่ตัว ไม่เคยให้แม่มีชีวิตของตัวเองเลย ทุกอย่างต้องทุ่มเทให้แต่ลูกกับสามี จนกลายเป็นความเศร้ามาตลอด ที่ไม่เลิกเพราะเห็นแก่ลูกนะ พอแม่จะเลิกพ่อก็ยังไม่รู้ตัวเองนะว่าที่ทำน่ะทำร้ายแม่มาตลอด ละพ่อนี่คือแม้กระทั้งหุงข้าว ต้มน้ำร้อน ซักถุงเท้ายังทำไม่เป็นเลย นี่ก็เป็นอีกตัวอย่างชีวิตคู่ที่ไม่เห็นอกเห็นใจกันนะ ด้วยสังคมเกาหลีเป็นอย่างงี้กัน สมัยนี้เลยมีการหย่าร้างสูงกว่าแต่ก่อนมาก แต่ชีวิตคู่พ่อแม่นางเอกนี่คือแสดงให้เห็นอำนาจนิยมในเกาหลีเลยนะที่ตัดขาดไม่ได้สักที แล้วมันส่งผลถึงแนวความคิดปัจจุบันที่โลกก้าวหน้าแล้วแต่ความคิดของผู้ชายเกาหลีก็ไม่เคยเปลี่ยนสักที ความปิตาเข้มข้นจัด
สำหรับพระนางนั้น ก็บอกเลยว่าไม่ค่อยอินเท่าไรกับเคมีนะ แต่ก็เล่นได้ดีตามบทเลย จางกียงหล่อ ยิ่งมีฉากถือกล้องคือหล่อคูณร้อยยยย เท่มาก ส่วนซงฮเยคโย ด้วยความเป็นนางเอกมานานเราว่าบทมันไม่ค่อยส่งเสริมกับบารมีนางเอกแนวหน้าเท่าไร อยากให้รับบทที่ออกจากคอมฟอร์มโซน บทที่ท้าทายกว่านี้บ้าง เหมือนเห็นเขารับแต่โรแมนติกดราม่าตลอดเลย แอบเบื่อ มันซ้ำซากจำเจอีกแล้ว
สรุปเลยเรื่องนี้เราไม่ประทับใจเนื้อหาพระนางเท่าไร แต่เรากลับชอบประเด็นเนื้อหาอื่นๆในเรื่องนะตามที่เขียนไปข้างต้น ใครจะดู/ไม่ดูก็ตัดสินใจเอาเอง เราแค่รีวิวในมุมมองของเราอีกมุมกับเรื่องนี้
#NowWeAreBreakingUp
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น