🇰🇷 My Libaration Notes 9.5/10
ปล่อยใจสู่เสรี
16 ตอนจบซับไทย Netflix
เรื่องย่อ
เรื่องราวของ 3 พี่น้อง ยอมคีจอง ยอมชางฮีและยอมมีจอง ที่ใช้ชีวิตไปกลับโดยขนส่งสาธารณะระหว่างที่ทำงานกับบ้านที่อยู่เขตปริมณฑล นอกจากระยะการเดินทางแล้วก็ยังมีปัญหาส่วนตัวของแต่ละคนที่ต้องหาทางเอาตัวรอด
รีวิว
เรื่องนี้ตอนแรกยังไม่อยู่ในลิสที่จะดูเลย เพราะส่วนตัวไม่ค่อยชอบดูแนวเรื่อยๆ น่าเบื่อสักเท่าไร แต่เห็นรีวิวในทวิตที่เขาแคปบทในเรื่องละสะกดใจมาก มันรีเลสกับชีวิตของตัวเองจัง ก็เลยเอาหว่ะตัดสินใจดูหน่อยสิ
เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของ 3 พี่น้องที่ใช้เวลาในแต่ละวันอย่างน่าเบื่อจำเจกับการเดินทางระหว่างบ้านเขตปริมณฑลกับที่ทำงานในเมืองหลวง เวลาส่วนตัวก็น้อยมากเพราะใช้เวลาไปกับที่ทำงานและขนส่งรถไฟสาธารณะ ต้องรีบกลับบ้านให้ทันรถเที่ยวสุดท้าย หรือไม่งั้นก็ต้องหารแท็กซี่กลับด้วยกันในวันที่มีนัด/ธุระ/เลี้ยงสังสรรค์ของแต่ละคน ด้วยวัยทำงานทุกคนต่างก็ต้องมีปัญหาของตนเองโดยที่ไม่สะดวกใจจะปรึกษากัน ก็ทำให้ความสัมพันธ์ของสามคนพี่น้องมีกำแพงเกิดขึ้นมา แถมบางทีก็ไม่ลงรอยกัน ความเข้าใจกันจึงเป็นเรื่องที่ยากจะเกิดขี้น
เรื่องนี้บทคือเรียลมาก เรียลสุดมันคือชีวิตของมนุษย์เราเลย ที่ใช้ชีวิตไปกับที่ทำงานสภาพเดิมๆน่าเบื่อ แล้วก็ขนส่งสาธารณะอันวุ่นวาย เรื่องแค่นี้มันกินพลังงานคนเราได้นะในแต่ละวัน แต่ขนส่งในเรื่องคือรถไฟใต้ดินและรถไฟออกนอกเมือง สภาพการเดินทางยังสะดวกสบายกว่าปท.นี้มากนะ สำหรับคนที่แทบจะไม่มีเวลาส่วนตัวเลยมันโคตรน่าเบื่อมากอะ กับการที่ต้องไปกลับบ้านกะที่ทำงาน ในเรื่องเป็นบ้านพ่อแม่ที่พ่อนั้นเคี่ยวเข็ญมาก ดังนั้นเวลามีปัญหาแทบจะไม่กล้าปรึกษาพ่อแม่เลย มันยิ่งเหมือนถูกตีกรอบในทุกเรื่องที่คิดจะทำ มันเลยเป็นความอึดอัดใจอย่างเลี่ยงไม่ได้ เช่นลูกชายคนกลางที่อยากซื้อรถส่วนตัวแต่พ่อไม่เห็นด้วยเพราะกลัวรับผิดชอบไม่ไหว ส่วนพี่สาวคนโตก็กลุ้มใจกับปัญหาคู่ชีวิตที่ไม่มีใครสานสัมพันธ์ด้วย หรือน้องสาวคนเล็กที่อยู่ในบริษัทแบบเรียบง่ายแต่บริษัทบังคับให้ทุกคนต้องเข้าร่วมชมรมเพื่อกระชับความสัมพันธ์ในหมู่พนักงาน แถมความสัมพันธ์ระหว่างเธอและหัวหน้าก็ไม่ราบรื่น นอกจากนี้ยังต้องรับผิดชอบใช้หนี้ที่แฟนเก่าค้างไว้ ดูๆไปชีวิตน้องสาวคือหนักสุดละ แต่น้องสาวโชคดีที่ชายหนุ่มปริศนา ผู้ชายที่ไม่มีใครรู้ตัวตนคนนี้คอยพยายามเข้าใจปัญหา นั่นคือคุณกู ชาบหนุ่มที่ทำงานเป็นผู้ช่วยของพ่อ ทำให้นางเอกได้พบกับคนที่ไม่เคยตั้งคำถามและเป็นคนที่คอยรับฟังเท่านั้น
เรื่องนี้ถ้าใครที่ไม่มีประสบการณ์ชีวิตแบบตัวละครในเรื่อง การดูเรื่องนี้คือยากมากที่จะดูสนุก มันจะรู้สึกว่าเนื้อเรื่องดำเนินไปแบบเรื่อยๆ เอื่อยๆน่าเบื่อมาก มันไม่ผิดนะถ้าใครรู้สึกแบบนี้ตอนดูแต่ถ้าคนที่มีประสบการณ์ตรงขอบอกเลยว่ามีคำว่า เออ ตรง ใช่ นั่นแหละ อย่างเดียวเลย อย่างเราเนี่ยจะอินเรื่องของน้องสาวคนเล็กมากหน่อย ด้วยความเป็นคนสันโดษ นิ่งเงียบ ไม่ค่อยพูดอะไรกับใคร อยากอยู่เฉยๆเอาความสบายใจของตัวเองเป็นหลัก การที่จะต้องไปอยู่ท่ามกลางผู้คนคือความอึดอัดใจ การที่เป็นคนธรรมดาไม่มีอะไรน่าสนใจ ไม่ทำให้รู้สึกแย่นะ แต่บางครั้งก็ต้องการให้คนอื่นไม่จำเป็นต้องเข้าใจในตัวเราอะ แค่ให้กำลังใจ ฟังเฉยก็พอ ดังนั้นความรู้สึกที่ตัวละครนึกคิดนั้นคือเราเข้าใจทั้งหมดเลย เรื่องนี้ด้วยบท บรรยากาศ สภาพแวดล้อมมันไม่ได้สวยงามนัก เพราะฉากมันจะเป็นขนส่งสาธารณะ ที่ทำงาน บ้าน ร้านอาหารกินเลี้ยงตามวัฒนธรรมสังสรรค์รวมตัวของเกาหลีไรงี้ มันคือชีวิตของมนุษย์เราที่เห็นอยู่ในทุกๆวัน คอสตูมในเรื่องก็ไม่ใล้เสื้อผ้าแบรนด์เลย ด้วยความซ้ำซากจำเจ แต่เนื้อเรื่องเหมือนสื่อให้เห็นว่าในวันใดวันหนึ่งสิ่งเหล่านี้สักวันหนึ่งก็อาจเปลี่ยนไปหรือไม่เปลี่ยนไปก็ได้ มันขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเรางี้ และต้องเตรียมพร้อมกับสถานการณ์ไม่คาดคิดที่จะเกิดขึ้นมาโดยไม่ตั้งตัวด้วย เนื้อเรื่องมันเลยแนวปล่อยใจให้เวลามันดำเนินไปไรแบบนี้ บางฉากก็จะมีความเงียบ ความเศร้า ความสิ้นหวังเข้ามา ปัญหาที่เกิดขึ้นมาอยู่ที่เราตัดสินใจ หรือพาตัวเองไปอยู่ในจุดที่สบายใจสำหรับเรา สังเกตได้จากฉากแรกและฉากสุดท้ายของแต่ละคนที่ได้เลือกทางเดินที่เหมาะสมให้กับตนเอง
ส่วนคนที่สงสัยว่าชื่อเรื่องมันเชื่อมกับเนื้อหายังไง จุดนี้ในซีรี่ส์สื่อไม่ชัดเจนนะ แค่น้องสาวคนเล็กไม่เข้าชมรมของบริษัทก็เลยตั้งชมรมขึ้นมาว่า "ชมรมอิสรภาพ" เป็นการเขียนไดอารี่ลงในสมุดเล่าเรื่องราวของตัวเองในคนอื่นในชมรมฟัง โดยมีเงื่อนไขว่าทุกคนฟังอย่างเดียว ห้ามแสดงความคิดเห็นและให้คำแนะนำในปัญหานั้นๆไรประมาณนี้ ซึ่งมันเหมือนให้ทุกคนรับฟังโดยเคารพการตัดสินใจไรประมาณนี้ แล้งสมาชิกในชมรมยังเขียนกันอยู่ แล้วเพื่อนที่เป็นบก.สนใจอยากทำเป็นหนังสืองี้เลยนัดรวมตัวกัน
สำหรับนักแสดง สำหรับเราทุกคนแสดงได้สมบทบาท เข้าถึงบทแก่นเรื่องมากๆเลย อีมินกิก็ได้พลิกบทบาทมาเป็นคนที่มีปมในชีวิตเลยแสดงออกทางอารมณ์กับทุกคน ส่วนคิมจีวอนก็เป็นบทที่คนในสังคมกำลังอยู่ในสถานการณ์เดียวกันมันเป็นบทที่ให้กำลังใจได้ดีนะ ส่วนอีเอลก็เป็นบทพี่สาวที่ดูมีปมเรื่องคู่ครอง ซึ่งเป็นลักษณะของคนวัยกลางคนที่ต้องการความรักของคนอื่นแต่ลืมดูแลตนเอง และซนซอกกู บทคุณกูผู้มีอดีตเรื่องราวที่พยายามหนีปัญหา แล้วใช้ชีวิตอยู่ไปวันๆ โดยใช้เหล้าย้อมใจ คือบทหลักในเรื่องนั้นมันมีความเป็นมนุษย์ทั่วไปจริงๆ มันคือจุดเด่นของเนื้อเรื่องเลยนะ เป็นความธรรมดาที่ไม่ธรรมดา
สุดท้ายก็อยากให้ทุกคนลองเปิดใจกับเรื่องนี้อีกสักครั้งถ้าใครดูแล้วไม่สนุกก็พักไว้ก่อนอย่าฝืน หรือถ้าชีวิตมีเรื่องหนักใจ ไม่สบายใจก็ลองดูเรื่องนี้ได้ มันเหมือนปลอบจิตใจและให้กำลังใจนะ ไม่บังคับว่าให้ดูเรื่องนี้ตอนนี้ เก็บเข้าลิสก่อนก็ได้ พร้อมเมื่อไหร่ค่อยดู เรื่องนี้ต้องดูตอนที่ถึงเวลาอันเหมาะสมในชีวิตถึงจะเข้าใจเนื้อหาและสนุกไปด้วยกันกับตัวละคร
#MyLibarationNotes #NetflixTH
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น